วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2553



Grape

Grape is a perennial Look like a bush trail Look hard and stems. King forever, if older than one season, let it grow naturally winding Island branch Wavy leaf edges rounded concave stem leaves deeply 5 lobe is concave heart. Bouquet of flowers into separate fields. Small flowers with small green hat. When the bloom is off the petals on a white bloom. Cone welded together end to the split 5 cloves into a single chain. (Resulting from a single bouquet of flowers, but flowers are not fused together), the small round juicy and well water. Skin is creamy and sweet island green, purple, black, red and purple depending on variety. In the seeds about 1 to 4 seeds.
History of cultivation
From historical evidence. Indicates that there is planted grape vines well over 5,000 years and can grow well in winter. Area semi-cold and hot semi-tropical Thailand, no clear evidence that any imported into the session. But that would be expected to come from the reign of King Rama 5 by his plants, you can be weird. His foreign trip was to grow in Thailand And believe that the number of strange plants. These grape varieties are likely to be included. In the reign of King Rama 7 with evidence that started to grow grapes of what they thought to have sour grapes. The grapes are grown weak later in the year 2493 had been growing grapes of healing seriously by Royal Works. Brought grape varieties from California. Year 2497 United States and look to the wise Dr. Pit grape varieties from Europe, which can be grown as a satisfactory result. Since then, Thailand has grown grapes in the more prevalent.
Properties of drugs and nutrients
Grapes are an important nutrient foods is the sugar and organic acid compounds such as glucose, sugar Coast Zoo, vitamin C, iron and calcium. Grapes can also be used to make wine, liquor, which is used as a maintenance drug. Eating grapes on a regular basis has helped to nourish the brain, heart care, cure thirst, diuretic and tonic. The gaunt man body. Aging and no power If you eat grapes on a regular basis can boost the immune system stronger. The network and the root activity in driving wind, urine, treat arthritis, pain, bone pain, and N. It also has effects tranquilizers, pain and vomiting resolve.
Strawberry Berry

Strawberry Curry is a genus in the family flower rose Results can be sent to Central last year. In the past, planting a cover crop with trees planted another party. This could be the origin of the name is more than 20 species and many hybrids. But strawberry berry grown more popular today is the garden strawberry berry (Fragaria × ananassa) Effect of strawberry berry flavors depending on the variety of species Ranging from sweet to sour. Strawberry berry fruit trade is important. There is a widely planted several weather around the world.

Appearance of strawberry berry

The annual Different branches spreading ground cover. Leaves are combined in a 3-card edge blade shaft indentation with white flowers of the tree Uganyay connected. A small burr across the thin. Pole calyx on the fruit. When white light is yellow when ripe red, orange or sour tastes to sweet. Depending on the mature.

Appropriate environment

The Strawberry Tree that has not taken out of the area from a height of 800 meters from the sea and over.Areas where the temperature 10-25 ℃ (a cold year-round).Areas with fertile soil, such as HX or grassland soil fertile.

Season

Start planting in March.Start harvesting period from November to April of next year.

The popular varieties grown in Thailand

Royal 16 varieties.Royal 20 varieties.

Royal 50 species (varieties Royal Project Foundation encourages planting) is caused by the mixed breed in the United States.

And brought into the mix selected by myself from year 2536 to grow and yield well in moderately cold weather. Canopy moderate to very tight Production of good quality, especially near the maturation of 12 -18 g w wedge shaped red to dark red rather hard What is not resistant. However, resistance to mold dough well.

Royal species 70 (as a species that promotes the Royal Project Foundation to grow) is a species from Japan. Visit the spherical head. And dark green are not resistant to mold powder But resistance to wilt. Yield relatively high weight of 11.5 to 13.0 grams of a sphere or a cone style. Bright red, but not consistently. Texture and smell is quite strong and juicy and sweet. Percent sugar content 9.6 ° Brix.

Royal species 72 (Royal Project Foundation is a species that promotes plant) is a species imported from Japan from a variety TOCHIOTOME Year 2542 w / 14 grams of solid flesh than 70 varieties, but King is less sweet. than the 9.3 ° Brix smell at the beginning of ripening. Fruit flesh is white. Surface effects on maturation are red to red. A shadow of its surface. Resistance to transport than other varieties.

Nutrient

Strawberry Berry vitamin A, vitamin B and vitamin C.Force acrylic acid (Folic acid).A fiber (Fiber).

รถไฟชินคันเซ็น

ชินคันเซ็น (ญี่ปุ่น: 新幹線 shinkansen)เป็นเครือข่ายของรถไฟความเร็วสูงในญี่ปุ่นซึ่งดำเนินการโดย 4 กลุ่มบริษัทรถไฟญี่ปุ่น นับตั้งแต่ได้เปิดใช้โทไกโด ชินคันเซ็น ในปี ค.ศ. 1964 รถไฟคันนี้สามารถวิ่งด้วยความเร็ว 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากนั้น เครือข่ายของระบบรถไฟนี้ก็ได้ขยายออกไปจนครอบคลุมพื้นที่สำคัญต่าง ๆ ของประเทศตามเมืองใหญ่ ๆ ในเกาะฮนชู เกาะคีวชู ความยาวเส้นทางรวม 2,459 กิโลเมตร โดยสามารถวิ่งด้วยความเร็ว 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้จะเกิดแผ่นดินไหวหรือพายุไต้ฝุ่น ก็สามารถวิ่งได้ตามปกติ ในรางปกตินั้นรถไฟสามารถเร่งความเร็วได้ถึง 443 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ทำการทดสอบในปี 1996) แต่สามารถเร่งความเร็วได้ถึง 581 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งเป็นความเร็วสถิติโลกเมื่อวิ่งด้วยรางรถไฟแม่เหล็ก (แมกเลฟ) ในปี 2003
ชินคันเซ็น มีความหมายว่า "ทางรถไฟสายใหม่" ดังนั้น ตามความหมายอย่างเป็นทางการ ชินคันเซ็น จะเป็นชื่อที่ใช้เรียกระบบรางรถไฟเท่านั้น ส่วนตัวรถไฟจะมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "รถไฟความเร็วสูง" หรือ "รถไฟซูเปอร์เอกซ์เพรส" (超特急, chō-tokkyū) อย่างไรก็ตาม ทั้งสองชื่อก็ไม่ได้ทำให้เกิดความสับสนแต่อย่างใด สามารถเรียกใช้แทนกันได้แม้แต่ในญี่ปุ่นก็ตาม

เมื่อเปรียบเทียบกับทางรถไฟสายเก่าแล้ว ชินคันเซ็นจะมีความแตกต่างตรงที่รางรถไฟจะมีความกว้างเป็นแบบมาตรฐาน และมีการขุดอุโมงค์เข้าไปหรือสร้างสะพานข้ามเมื่อเจอสิ่งกีดขวางแทนที่จะอ้อมไปแบบแต่ก่อน ทำให้เส้นทางรถไฟของชินคันเซ็นจะมีความคดเคี้ยวน้อยกว่า และช่วยร่นระยะทางให้ไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีเส้นทางเดินรถที่ใหญ่และไกล แต่ชินคันเซ็นนั้นก็เป็นเส้นทางที่ใช้เชื่อมตามมหานครใหญ่ ๆ ในญี่ปุ่นเท่านั้น

ประวัติ

รางรถไฟชินคันเซ็น เป็นรางที่มีความกว้างมาตรฐาน (standard gauge)ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกที่สร้างทางรถไฟมาเพื่อรถไฟความเร็วสูงโดยเฉพาะ เนื่องจากภูมิประเทศของญี่ปุ่นจะเต็มไปด้วยภูเขามากมาย เส้นทางรถไฟที่มีอยู่ในขณะนั้นจึงมีความกว้างแบบแคบ คือ 1,067 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้ต้องวางเส้นทางรถไฟที่คดเคี้ยวและรถไฟไม่สามารถเร่งให้มีความเร็วสูงกว่านี้ได้ ต่อมา ญี่ปุ่นมีความต้องการสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงมากกว่าความต้องการสร้างของประเทศที่มีระบบรางรถไฟความกว้างมาตรฐานอยู่แล้วและญี่ปุ่นนั้นก็มีศักยภาพในการปรับปรุงระบบรถไฟให้ทันสมัยมากกว่าอีก

จุดประสงค์แรก

ชื่อเรียกอีกชื่อที่คุ้นหูกันดีสำหรับชินคันเซ็นนี้ก็คือ รถไฟหัวกระสุน (bullet train) ซึ่งเป็นความหมายของคำในภาษาญี่ปุ่นว่า dangan ressha (弾丸列車) ต่อมาชื่อนี้ได้นำมาเรียกเป็นชื่อเล่นของโครงการตั้งแต่ตอนเริ่มต้นปรึกษาหารือความเป็นไปได้ของโครงการในราวทศวรรษที่ 1930 ชื่อนี้ได้มาจากลักษณะของหัวรถจักรที่มีลักษณะคล้ายกับหัวกระสุนปืนและยังมีความเร็วสูงเหมือนกระสุนปืนนั่นเอง

คำว่า "ชินคันเซ็น" มีการนำมาใช้อย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2483 (ค.ศ. 1940) เพื่อใช้เรียกเส้นทางทางเดินรถไฟโดยสาร/สินค้าจากกรุงโตเกียวไปยังชิโมะโนะเซะกิที่จะสร้างขึ้นในสมัยนั้น โดยการใช้พลังงานไอน้ำและหัวรถจักรไฟฟ้าที่สามารถเร่งความเร็วได้ถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากนั้นสามปี รัฐมนตรีรถไฟได้ผลักดันให้เกิดโครงการขยายทางรถไฟไปสู่กรุงปักกิ่ง (โดยการเจาะอุโมงค์ผ่านคาบสมุทรเกาหลี) หรือยาวไปจนถึงสิงคโปร์เลยทีเดียว ไปจนถึงการสร้างทางรถไฟเชื่อมกับทางรถไฟสายไซบีเรียนของรัสเซียและทางรถไฟสายอื่น ๆ ของเอเชีย แต่ต่อมา แผนนี้ได้มีการยกเลิกในปี พ.ศ. 2486 (ค.ศ. 1943) และสภาวะของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ อย่างไรก็ตาม โครงสร้างบางส่วนก็ได้รับการพัฒนาต่อ เช่น อุโมงค์บางส่วนได้มาการนำมาใช้สำหรับชินคันเซ็นในปัจจุบันนับตั้งแต่มีการสร้างครั้งแรกในช่วงสงคราม

การก่อสร้าง
ภูเขาไฟฟูจิกับรถไฟชินคันเซ็น ในช่วงดอกซากุระบาน
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้สิ้นสุดลง รถไฟความเร็วสูงก็ได้เลือนหายไปจากความทรงจำของคนญี่ปุ่นเป็นเวลาหลายปี ต่อมากลางทศวรรษที่ 1950 ทางรถไฟสายหลักโทไกโดก็ถูกใช้งานมาจนเต็มขีดความสามารถแล้ว รัฐมนตรีรถไฟของญี่ปุ่นจึงได้ตัดสินใจกลับมาทบทวนโครงการชินคันเซ็นอีกครั้ง รัฐบาลได้อนุมัติโครงการเมื่อปี 1958 การก่อสร้างทางรถไฟส่วนแรกของ โทไกโด ชินคันเซ็น ระหว่างกรุงโตเกียวไปยังโอซะกะก็ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2502 การก่อสร้างทางรถไฟครั้งนี้ ญี่ปุ่นจำเป็นต้องกู้เงินจากธนาคารโลกเป็นจำนวนเงิน 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อมาในปี 1962 ได้มีพิธีเปิดการทดสอบระบบเพื่อการขนสินค้าเป็นครั้งแรกในบางส่วนของเส้นทางนี้ ที่เมืองโอะดะวะระ จังหวัดคะนะงะวะ

โทไกโด ชินคันเซ็น ได้เปิดใช้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2507 (ค.ศ. 1964) ซึ่งทันเวลาสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 1964 ณ กรุงโตเกียวพอดี ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จทันทีทีเปิดใช้บริการ โดยมีจำนวนผู้โดยสารถึง 100 ล้านคนในเวลาน้อยกว่า 3 ปีคือวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2510 (ค.ศ. 1967) และยอดผู้โดยสารรวมมีจำนวนถึง 1,000 ล้านคนในปี 1976 และรถไฟขบวนโดยสาร 16 ตู้ก็ได้นำมาจัดแสดงในงานนิทรรศการปี 70 ที่โอซะกะ

รถไฟชินคันเซ็นขบวนแรกวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากนั้นก็เพิ่มเป็น 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถไฟบางขบวนที่มีรูปร่างเป็นหัวกระสุนนั้นยังมีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน และหัวรถจักรคันหนึ่งในจำนวนนี้ปัจจุบันได้นำไปแสดงที่พิพิธภัณฑ์รถไฟแห่งชาติ ที่เมืองยอร์ค สหราชอาณาจักร
การต่อขยายเส้นทาง

หลังจากในช่วงแรกประสบความสำเร็จ จึงพร้อมที่จะต่อขยายเส้นทางเดินรถไฟออกไปทางตะวันตก โดยมีจุดหมายไปยังฮิโระชิมะและฟุกุโอะกะ (ซันโย ชินคันเซ็น) จนแล้วเสร็จในปี 1975

คาคุเออิ ทานากะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ให้การสนับสนุนอย่างมาก รัฐบาลชุดนี้ตั้งเป้าว่าจะต่อขยายรางรถไฟที่มีอยู่ให้กลายเป็นรางรถไฟรางคู่ขนานครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เส้นทางใหม่ 2 แห่งแรกคือ โทโฮคุ ชินคันเซ็น และโจเอสึ ชินคันเซ็น ทั้งสองเส้นทางนี้สร้างขึ้นตามแผนการของรัฐบาลชุดนี้ หลังจากนั้นแผนการต่อขยายในเส้นทางอื่น ๆ ก็ถูกระงับชั่วคราวหรือถูกยกเลิกไปทั้งหมดขณะที่กิจการรถไฟแห่งชาติเริ่มเข้าสู่ภาวะเป็นหนี้มหาศาลเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างเครือข่ายชินคันเซ็นทั่วประเทศนั้นเป็นตัวเลขที่สูงมากทีเดียว ในราวทศวรรษที่ 1980 การรถไฟญี่ปุ่นอยู่ในภาวะเกือบจะล้มละลาย จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเป็นหน่วยงานเอกชนในที่สุด เมื่อปี 1987
อย่างไรก็ตาม โครงการพัฒนารถไฟชินคันเซ็นก็ได้ดำเนินการมาโดยตลอด มีต้นแบบรถที่มีลักษณะเฉพาะของแต่ละรุ่นออกมาเสมอ ตอนนี้ รถไฟชินคันเซ็นสามารถทำความเร็วได้ถึง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก้าวขึ้นมาเทียบเท่ารถไฟความเร็วสูงระดับโลกไม่ว่าจะเป็น TGV ของฝรั่งเศส, TAV ของอิตาลี, AVE ของอิตาลี และ ICE ของเยอรมนี

นอกจากนั้น ตั้งแต่ปี 1970 ญี่ปุ่นยังได้พัฒนาชุโอะ ชินคันเซ็น ซึ่งเป็นรถไฟพลังแม่เหล็ก (แม็กเลฟ) โดยกำหนดว่าจะวิ่งจากโตเกียวไปยังโอซะกะ ในวันที่ 2 ธันวาคม ปี 2003 รถไฟพลังแม่เหล็กขนาดสามตู้รถไฟ ชื่อ JR-Maglev MLX01 ก็สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดเป็นสถิติโลกของทุกวันนี้ นั่นคือ 581 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

สถิติด้านความปลอดภัย

ระหว่างการใช้งานกว่า 40 ปีเต็ม จำนวนยอดผู้โดยสารกว่า 6 ล้านคนมาแล้ว ชินคันเซ็นก็ไม่เคยมีประวัติว่ามีผู้โดยสารเสียชีวิตเนื่องจากรถไฟตกรางหรือรถไฟชนกันเลย (รวมไปถึงอุบัติเหตุแผ่นดินไหวและพายุไต้ฝุ่นด้วย) มีเพียงการบาดเจ็บและการเสียชีวิตจากประตูรถไฟงับผู้โดยสารหรือสัมภาระของผู้โดยสารเท่านั้น เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอยู่เป็นจำนวนมากที่สถานีเพื่อป้องกันการเกิดเหตุร้ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ก็เคยมีประวัติผู้โดยสารฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงไปในรางขณะที่รถไฟกำลังเทียบชานชาลาหรือกระโดดออกจากรถไฟก่อนที่รถไฟจะจอด

ชินคันเซ็นช่วงที่กำลังรับส่งผู้โดยสารนั้นเคยตกรางเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเกิดแผ่นดินไหวชูเอ็ทสุ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2004 โบกี้โดยสารจำนวน 8 โบกี้จากทั้งหมด 10 โบกี้ของรถไฟหมายเลข 325 สาย โจเอ็ทสุ ชินคันเซ็น ตกรางใกล้ ๆ กับสถานีนะงะโอะกะ ในเมืองนะงะโอะกะ จังหวัดนีงะตะ แต่ผู้โดยสารทั้ง 154 คนไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวนั้น ระบบตรวจจับแผ่นดินไหวสามารถสั่งการให้รถไฟหยุดได้อย่างรวดเร็ว

ชินคันเซ็นในอนาคต

ปัญหาอย่างหนึ่งของชินคันเซ็นคือ ยิ่งเพิ่มความเร็วมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้มีมลพิษทางเสียงมากขึ้นและแก้ไขได้ยากขึ้นอีกด้วย การศึกษาวิจัยในปัจจุบันจึงมุ่งเน้นในเรื่องการลดเสียงดังที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสียงที่เกิดขึ้นในอุโมงค์ หรือ tunnel boom อันเกิดจากการที่รถไฟวิ่งออกจากอุโมงค์ด้วยความเร็วสูง
การรถไฟแห่งญี่ปุ่นสายตะวันออกได้ประกาศว่ารถไฟขบวนใหม่สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วถึง 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะนำมาใช้ในการเปิดตัวโทโฮคุ ชินคันเซ็น ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายจากฮะชิโนะเฮะไปยังอะโอะโมะริในช่วงต้นปี 2011 แต่จากการทดลองวิ่งรถไฟ Fastech 360 พบว่า ที่ความเร็ว 360 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นยังมีปัญหาอยู่ที่มลพิษทางเสียง สายส่งเหนือรถไฟ และระยะหยุดรถ ซึ่งอาจจะเป็นข้อจำกัดของการเทคโนโลยีชินคันเซ็นในปัจจุบันก็ว่าได้ ในที่สุด ก็มีการนำเอาเทคโนโลยีรถไฟพลังแม่เหล็กหรือเทคโนโลยีอื่นมาทดแทน หากสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็ว 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจากอุตสึโนะมิยะไปยังอะโอะโมะริแล้วก็จะทำให้สามารถเดินทางจากโตเกียวไปยังอะโอะโมะริได้โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น (ระยะทางประมาณ 675 กิโลเมตรหรือ 419 ไมล์)


คีวชู ชินคันเซ็น จากคะโงะชิมะไปยัตสุชิโรเปิดใช้เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2004 มีการวางแผนว่าจะต่อขยายออกไปอีก 3 เส้นทางและจะเปิดใช้ในปี 2010 นอกจากนั้นยังมีการวางโครงการระยะยาวในการต่อขยายเครือข่าย ฮอกไกโด ชินคันเซ็น จากฮะโกะดะเตะไปยังซัปโปะโระและคีวชู ชินคันเซ็นไปยังนะงะซะกิ และจะเชื่อมระหว่างคะนะงะวะกลับไปยังโอซะกะ แม้จะดูเหมือนว่าจะไม่มีโครงการใดเสร็จทันปี 2020 ก็ตาม นอกจากนั้น ผู้บริหารของการรถไฟแห่งญี่ปุ่นสายกลางก็ได้ประกาศแผนการที่จะสร้างรถไฟพลังแม่เหล็ก ชูโอะ ชินคันเซ็น ให้สามารถเดินทางจากโตเกียวไปยังนะโงะยะภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงให้ได้ (ระยะทางประมาณ 366 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ภายในปี 2025
โครงการ นาริตะ ชินคันเซ็น เพื่อสร้างการเชื่อมต่อกับท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ โดยโครงการนี้ริเริ่มมาตั้งแต่ทศวรรษ 1970 แต่ก็ล้มเลิกไปในปี 1983 เพราะถูกต่อต้านจากเจ้าของที่ดินเจ้าเก่า แต่ได้ยกเลิกอย่างเป็นทางการและถอนออกจากโครงการพื้นฐานของรัฐบาลด้านโครงสร้างของชินคันเซ็นไป แต่โครงการใหม่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2010 นี้

วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553






หัวหิน
หัวหิน เป็นอำเภอที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เดิมมีชื่อว่า "บ้านสมอเรียง" หรือ "บ้านแหลมหิน" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ได้ทรงสร้างวังไกลกังวลเพื่อประทับพักผ่อนในฤดูร้อน และปัจจุบันวังไกลกังวลนั้นเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน
ทุกวันนี้หัวหินมีชื่อเสียงจากการเป็นสถานที่ตากอากาศที่สามารถเที่ยวได้ใน 1 วันและอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครเพียง 281 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2.5-3 ชั่วโมงหากโดยสารทางรถ หรือ 45 นาทีหากเดินทางโดยเครื่องบิน
ที่ตั้งและอาณาเขต

อำเภอหัวหินตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับ อำเภอแก่งกระจาน อำเภอท่ายาง และอำเภอชะอำ (จังหวัดเพชรบุรี)
ทิศตะวันออก ติดต่อกับอ่าวไทย
ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอปราณบุรี
ทิศตะวันตก ติดต่อกับเขตตะนาวศรี (สหภาพพม่า)
การปกครองส่วนภูมิภาค

อำเภอหัวหินแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 7 ตำบล 63 หมู่บ้าน ได้แก่
1.หัวหิน(Hua Hin)
2.หนองแก(Nong Kae)
3.หินเหล็กไฟ(Hin Lek Fai)
4.หนองพลับ(Nong Phlap)
5.ทับใต้(Thap Tai)
6.ห้วยสัตว์ใหญ่(Huai Sat Yai)
7.บึงนคร(Bueng Nakhon)
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอหัวหินประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 7 แห่ง ได้แก่
เทศบาลเมืองหัวหิน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหัวหินและตำบลหนองแกทั้งตำบล
เทศบาลตำบลหนองพลับ ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลหนองพลับ
องค์การบริหารส่วนตำบลหินเหล็กไฟ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหินเหล็กไฟทั้งตำบล
องค์การบริหารส่วนตำบลหนองพลับ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองพลับ (นอกเขตเทศบาลตำบลหนองพลับ)
องค์การบริหารส่วนตำบลทับใต้ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทับใต้ทั้งตำบล
องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ทั้งตำบล
องค์การบริหารส่วนตำบลบึงนคร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบึงนครทั้งตำบล
สถานที่ท่องเที่ยว

เจดีย์เบญจมหาโพธิสัตว์ ถ้ำไก่หล่น
จุฬามณีเจดีย์ วัดเขาตะเกียบ
หาดหัวหิน
สถานีรถไฟหัวหิน
ตลาดโต้รุ่งหัวหิน
เขาตะเกียบและเขาพิทักษ์
จุดชมวิวเขาหินเหล็กไฟ
ถ้ำไก่หล่น
น้ำตกป่าละอู่
วัดห้วยมงคล
หมู่บ้านช้าง
หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว
สนามกอล์ฟหัวหิน
โรงแรมรถไฟ
หมายเหตุ วังไกลกังวล ทรงตั้งขึ้นเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ ห้ามมิให้ผู้ไม่มีกิจธุระเกี่ยวข้องเข้าชมและกระทำการใด ๆ เนื่องจากมีการขึ้นประกาศเป็นรโหฐานแต่ยังคงให้ผู้ที่ต้องการออกกำลังการ เข้าไปใช้พื้นที่ ทะเลน้อยได้ และทรงประทาน พื้นที่ในการปลูกผักปลอดสารพิษของโรงเรียนไกลกังวลได้

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

ประเทศฝรั่งเศส
ภาษาฝรั่งเศส
Français ฟรองเซ
เสียงอ่าน:/fʁɑ̃sɛ/
พูดใน:ฝรั่งเศสและดินแดนในครอบครอง ควิเบก (แคนาดา) ชาด เบลเยียม นครรัฐวาติกัน สวิตเซอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก ลุยเซียนา (สหรัฐฯ) เมน (สหรัฐฯ) โมนาโก แอฟริกาตะวันตก สาธารณรัฐแอฟริกากลาง กัมพูชา เวียดนาม และ เฮติ
ภูมิภาค:แอฟริกา ยุโรป อเมริกา แปซิฟิก
จำนวนผู้พูด:87 ล้าน (รวมทั้งหมด 190 ล้าน)
อันดับ:15 (5 ถ้ารวมภาษาที่สอง)
ตระกูลภาษา:อินโด-ยูโรเปียน
อิตาลิก
โรมานซ์
อิตาโล-เวสเทิร์น
อิตาโล-เวสเทิร์นตะวันตก
กัลโล-ไอบีเรียน
กัลโล-โรมานซ์
กัลโล-รีเชียน
โออีล
ภาษาฝรั่งเศส
ระบบการเขียน:อักษรละติน
สถานะทางการ
ภาษาทางการใน:ฝรั่งเศส และอีก 28 ประเทศ
ผู้วางระเบียบ:อากาเดมีฟรองแซส (ฝรั่งเศส) และสำนัก
ภาษาฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส: Français) เป็นหนึ่งในภาษากลุ่มโรมานซ์ที่สำคัญที่สุด เป็นรองเพียงภาษาสเปนและโปรตุเกสภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่มีคนนิยมเป็นอันดับที่ 11 ของโลก โดยเมื่อปี พ.ศ. 2542 มีคนพูดภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาภาษาแม่ (ฟรองโกโฟน) ประมาณ 77 ล้านคน และเมื่อรวมคนที่พูดเป็นภาษาที่สองแล้วจะมีประมาณ 128 ล้านคน
ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทางการ และภาษาที่ใช้ปกครองในชุมชนต่าง ๆ โดยเฉพาะประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส รวมถึงองค์กรต่าง ๆ ด้วย (เช่น สหภาพยุโรป ไอโอซี องค์การสหประชาชาติ และ สหภาพสากลไปรษณีย์) ในสมัยก่อนภาษาฝรั่งเศสถือเป็นภาษาสากลที่แพร่หลายที่สุด โดยมีสถานะเฉกเช่นภาษาอังกฤษในปัจจุบัน หนังสือเดินทางของไทยก็เคยใช้ภาษาฝรั่งเศสควบคู่กับภาษาไทย
ประวัติ
ยุคเริ่มแรก

ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาในกลุ่มภาษาโรมานซ์ กล่าวคือ เป็นภาษาที่มีต้นกำเนิดจากภาษาละตินที่พูดกันในจักรวรรดิโรมันโบราณ ก่อนหน้าที่ดินแดนที่เป็นที่ตั่งประเทศฝรั่งเศสในปัจจุบันจะอยู่ใต้การปกครองของโรมัน ดินแดนดังกล่าวเคยอยู่ใต้การปกครองของพวกกอล ซึ่งเป็นหนึ่งในชนชาติเซลต์ ในสมัยนั้นดินแดนประเทศฝรั่งเศสมีคนที่พูดภาษาถิ่นต่าง ๆ กันหลายภาษา แม้ว่าชาวฝรั่งเศสจะชอบสืบที่มาของภาษาของตนไปถึงพวกโกล (les Gaulois) แต่มีคำในภาษาฝรั่งเศสเพียง 2,000 คำเท่านั้นที่มีที่มามาจากภาษาของพวกโกล ซึ่งโดยมากจะเป็นคำที่ใช้เป็นชื่อสถานที่ หรือเป็นคำที่มีความหมายเกี่ยวกับธรรมชาติ

หลังจากที่ชาวโรมันได้เข้ามายึดดินแดนของพวกโกล คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นก็ได้เปลี่ยนมาพูดภาษาละติน ซึ่งภาษาละตินที่พูดกันในบริเวณนี้ ไม่ใช่ภาษาละตินชั้นสูงแบบที่พูดกันในหมู่ชนชั้นสูงของกรุงโรม แต่เป็นภาษาละตินของชาวบ้าน (vulgar latin) ที่พูดกันในหมู่พลทหาร นอกจากนี้ ภาษาละตินที่พูดกันอยู่ในฝรั่งเศสนั้น ก็ได้รับอิทธิพลจากภาษากอลอยู่พอควร เนื่องจากสิ่งของบางอย่างที่ใช้กันอยู่ในกอล พวกโรมันไม่มีชื่อเรียก จึงต้องขอยืมคำในภาษาโกลมาเรียกสิ่งของเหล่านั้น เช่น les braies ซึ่งแปลว่าเครื่องแต่งกายจำพวกกางเกงของชาวโกล

ยุคอาณาจักรแฟรงก์

หลังจากคริสต์ศตวรรษที่ 3 เป็นต้นมา จักรวรรดิโรมันก็เสื่อมอำนาจ ดินแดนหลายส่วนของจักรวรรดิโรมันตกอยู่ในเงื้อมมือของชนเผ่าป่าเถื่อนหลายพวก ชนเผ่าป่าเถื่อนที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนที่เป็นประเทศฝรั่งเศสปัจจุบัน ได้แก่ ชนเผ่าแฟรงก์ที่อาศัยอยู่ทางเหนือ ชนเผ่าวิซิกอทที่อาศัยอยู่ทางใต้ ชนเผ่าเบอร์กันดีในบริเวณริมแม่น้ำโรน และชนเผ่าเอลแมนที่อาศัยอยู่บริเวณพรมแดนของประเทศฝรั่งเศสและเยอรมนี ชนเผ่าป่าเถื่อนเหล่านี้พูดภาษากลุ่มเจอร์เมนิก สำเนียงของชนเหล่านี้ได้ส่งผลต่อภาษาละตินที่เคยพูดอยู่เดิมในฝรั่งเศส และคำจากภาษาของชนป่าเถื่อน ได้แก่ คำที่มีความหมายเกี่ยวกับยุทธวิธีในการรบ และชนชั้นทางสังคม ได้ถูกนำมาใช้ในภาษาละตินที่พูดกันอยู่ในฝรั่งเศส โดยภาษาฝรั่งเศสปัจจุบันมีคำที่มีที่มาจากคำในภาษาของชนป่าเถื่อนอยู่ราว ๆ ร้อยละ 60

ภาษาฝรั่งเศสในยุคกลาง

นักภาษาศาสตร์ได้จัดจำแนกภาษาฝรั่งเศสที่พูดกันในยุคกลางออกเป็น 3 จำพวก คือ พวกแรกคือภาษาที่เรียกกันว่า Langue d'Oïl พูดกันอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ พวกที่สองคือ Langue d'Oc ที่พูดกันอยู่ทางใต้ของประเทศ และพวกที่สามคือ Franco-Provençal ซึ่งเป็นการผสมผสานกันของสองภาษาแรก

Langue d'Oïl เป็นภาษาที่ใช้คำว่า oïl ในคำพูดว่า "ใช่" (ปัจจุบันใช้คำว่า oui) ในสมัยกลางภาษานี้จะพูดกันในตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งภาษานี้ได้พัฒนามาเป็นภาษาฝรั่งเศสในปัจจุบัน

Langue d'Oc เป็นภาษาที่ใช้คำว่า oc ในคำพูดว่า "ใช่" ภาษานี้พูดกันอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสและทางเหนือของสเปน ซึ่งภาษานี้จะมีลักษณะคล้ายกับภาษาละตินมากกว่า Langue d'Oïl

ภาษาฝรั่งเศสยุคใหม่

นักวิชาการเรียกภาษาฝรั่งเศสที่พูดในช่วงก่อนหน้าปี พ.ศ. 1843 ซึ่งก็คือภาษา Langue d'Oïl ว่าเป็นภาษาฝรั่งเศสโบราณ เอกสารฉบับแรกที่เขียนขึ้นเป็นภาษาฝรั่งเศสโบราณ คือ "คำปฏิญาณแห่งสตราสบูร์ก" (Strasbourg) ซึ่งเขียนขึ้นในปี พ.ศ. 1385

ในปี พ.ศ. 2082 พระเจ้าฟรองซัวที่ 1 ได้ออกพระราชกฎษฎีกาที่กำหนดให้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทางการของฝรั่งเศสแทนที่ภาษาละติน และกำหนดให้ใช้ภาษาฝรั่งเศสในการบริหารราชการ ในราชสำนัก และในการพิจารณาคดีในศาล ในช่วงนี้ได้มีการปรับปรุงตัวสะกดและการออกเสียงในภาษาฝรั่งเศส นักวิชาการเรียกภาษาฝรั่งเศสในยุคนี้ว่า ภาษาฝรั่งเศสยุคกลาง ในศตวรรษที่ 17 หลังจากที่มีการกำหนดมาตรฐานภาษาฝรั่งเศสให้พูดสำเนียงเดียวกันทั่วประเทศ การปรับปรุงและการกำหนดหลักต่างๆ ของภาษา ก็ทำให้เกิดภาษาฝรั่งเศสที่เรียกกันว่าภาษาฝรั่งเศสยุคใหม่ ซึ่งพูดกันอยู่ในปัจจุบัน

ในปี พ.ศ. 2177 พระคาร์ดินัลรีเชอลีเยอ (Richelieu) ได้ก่อตั้งองค์กรที่เรียกว่า L'Académie Française (อากาเดมี ฟรองแซส หรือ วิทยสถานแห่งประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเปรียบได้กับราชบัณฑิตยสถานของไทย) เพื่อทำหน้าที่ดูแลรักษาภาษาฝรั่งเศสไว้ไม่ให้วิบัติ และคงภาษาฝรั่งเศสให้อยู่ในรูปแบบเดิมให้มากที่สุด ในช่วงศตวรรษที่ 17-19 ฝรั่งเศสได้มีบทบาทสำคัญในการเมืองของทวีปยุโรป และเป็นศูนย์กลางของปรัชญารู้แจ้งที่แพร่หลายกันอยู่ในสมัยนั้น ทำให้อิทธิพลของภาษาฝรั่งเศสแผ่ออกไปกว้างขวางและกลายเป็นภาษากลางของยุโรป มีบทบาทสำคัฐทางการทูต วรรณคดี และศิลปะ มหาราชในยุคนั้นสองพระองค์ คือ พระนางแคทเธอรีนมหาราชินีแห่งรัสเซีย และพระเจ้าเฟรดริกมหาราชแห่งปรัสเซีย สามารถตรัสและทรงพระอักษรเป็นภาษาฝรั่งเศสได้ดี

ภาษาฝรั่งเศสในปัจจุบัน

ภาษาฝรั่งเศสในปัจจุบัน ถูกแทรกซึมโดยอิทธิพลของภาษาอังกฤษที่แผ่ขยายอย่างกว้างขวาง มีการนำคำภาษาอังกฤษมาใช้ปะปนกับภาษาฝรั่งเศสเดิมอย่างแพร่หลาย ซึ่งมีผลเสียต่อการอนุรักษ์ภาษาฝรั่งเศส รัฐบาลได้ออกกฎหมายบางฉบับเพื่ออนุรักษ์ภาษาฝรั่งเศส โดยกำหนดให้ใช้คำจากภาษาฝรั่งเศสแท้ๆ ในโฆษณา ประกาศ และเอกสารราชการต่าง ๆ นอกจากนี้ยังกำหนดให้สถานีวิทยุทุกสถานี เปิดเพลงภาษาฝรั่งเศสอย่างน้อยร้อยละ 40 ของเพลงทั้งหมดที่เปิดในสถานีนั้น

สถานะของภาษาฝรั่งเศสในประเทศฝรั่งเศส

ฝรั่งเศสกำหนดให้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทางการของประเทศตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 รัฐบาลกำหนดให้เอกสารราชการ สัญญาต่าง ๆ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ การศึกษา จะต้องทำเป็นภาษาฝรั่งเศส หากจำเป็นต้องใช้คำภาษาต่างประเทศ ก็ให้ใส่คำแปลเป็นภาษาฝรั่งเศสควบคู่กันไปด้วย

อย่างไรก็ดี ทางการไม่ได้ควบคุมการใช้ภาษาในเอกสารของเอกชน และในเว็บไซต์ของเอกชน ซึ่งหากทำการควบคุมแล้ว ก็อาจขัดต่อหลักการเสรีภาพในการพูดได้

สถานะของภาษาฝรั่งเศสในประเทศแคนาดา

ร้อยละ 12 ของคนที่พูดภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ในโลกนี้เป็นชาวแคนาดา และภาษาฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในภาษาทางการสองภาษาของแคนาดา (อีกภาษาหนึ่งคือภาษาอังกฤษ) กฎหมายของแคนาดากำหนดให้บริการต่างๆของรัฐบาลกลางจะต้องจัดให้เป็นสองภาษาเสมอ กฎหมายต่างๆ ที่ผ่านรัฐสภา จะต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส และฉลากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่วางขายในแคนาดาจะต้องมีภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส ร้อยละ 22 ของชาวแคนาดาใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ และร้อยละ 18 ของชาวแคนาดาสามารถพูดได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส

ภาษาฝรั่งเศสมีสถานะเป็นภาษาทางการเพียงภาษาเดียวของรัฐควิเบก (เกเบก - Québec) มาตั้งแต่การบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยภาษาฝรั่งเศส (Bill 101) ผลสำคัญข้อหนึ่งของกฎหมายฉบับนี้คือกำหนดให้เด็กในควิเบกต้องได้รับการศึกษาเป็นภาษาฝรั่งเศส ยกเว้นถ้าบิดามารดาของเด็กคนนั้นได้รับการศึกษาส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษภายในประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นการทำลายค่านิยมของผู้อพยพที่มักส่งบุตรหลานของคนเข้าเรียนในโรงเรียนที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ กฎหมายนี้ยังกำหนดให้ใช้ภาษาฝรั่งเศสในการพิจารณาคดี โฆษณา การอภิปรายในสภา และการพิจารณาคดีในศาล ภายในควิเบก ในปี พ.ศ. 2536 กฎหมายนี้ได้รับการแก้ไข โดยอนุญาตให้เขียนป้ายสัญลักษณ์หรือโฆษณาต่าง ๆ เป็นภาษาอังกฤษได้บ้าง ตราบใดที่ยังมีภาษาฝรั่งเศสเป็นส่วนมาก นอกจากนี้ยังทำให้คนที่พูดภาษาอังกฤษแต่อาศัยในควิเบกสามารถรับบริการทางสุขภาพและบริการของรัฐเป็นภาษาอังกฤษได้

รัฐอื่น ๆ ที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทางการควบคู่ไปกับภาษาอังกฤษ ได้แก่รัฐนิวบรันสวิก ยูคอนเทร์ริทอรี นอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์ และนูนาวุต ในรัฐออนแทรีโอ และแมนิโทบา ภาษาฝรั่งเศสไม่ได้มีสถานะเป็นภาษาทางการ แต่รัฐบาลของรัฐทั้งสองรัฐได้จัดการบริการต่าง ๆ เป็นภาษาฝรั่งเศสคู่กับภาษาอังกฤษ ในบริเวณที่มีคนที่พูดภาษาฝรั่งเศสอาศัยอยู่มาก

สถานะของภาษาฝรั่งเศสในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ภาษาฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในภาษาทางการของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ภาษาอื่น ๆ ได้แก่ภาษาเยอรมัน ภาษาอิตาลี และภาษาโรมานช์

การเรียนการสอนภาษาฝรั่งเศสในประเทศไทย

ปัจจุบันมีการเรียนการสอนในระดับมัธยมศึกษา ในร้อยละ 50 ของโรงเรียนมัธยมปลายทั่วประเทศ

เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก

เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก คือ สิ่งก่อสร้างที่มีความยิ่งใหญ่และโดดเด่น ทั้งหมด 7 แห่งด้วยกัน โดยมีการกล่าวถึงครั้งแรกในงานของเฮโรโดตุส (Herodotos หรือ Herodotus เมื่อราว 5 ศตวรรษก่อนคริสตกาล แต่หลังจากนั้นก็การอ้างถึงจากกวีชาวกรีก เช่น คัลลิมาฆุส แห่งคีเรนี, อันทิพาเตอร์ แห่งซีดอน และฟิโล แห่งไบเซนไทน์ เมื่อราวศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ หรือสิ่งมหัศจรรย์ทั้งเจ็ดของโลก ในบัญชีแรก เรียกกันว่า เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ และหลังจากนั้น ยังมีบัญชีเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลางและยุคปัจจุบัน โดยไม่ปรากฏผู้จัดทำรายการอย่างชัดเจน

เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ

  1. มหาพีระมิดแห่งกิซ่า ของกษัตริย์คูฟู ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ในอียิปต์ มีอายุราว 2,690 ปีก่อนคริสตกาล หรือเก่าแก่กว่านั้น เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เก่าแก่ที่สุด และยังคงปรากฏอยู่จนปัจจุบัน และมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์
  2. สวนลอยบาบิโลน สร้างโดยพระเจ้าเนบูคาดเนสซาร์ที่ 2 เมื่อศตวรรษก่อนคริสตกาลที่ 6 ปัจจุบันไม่ปรากฏหลักฐานหรือซาก แต่คาดว่าน่าจะอยู่บริเวณเดียวกับกรุงบาบิโลนในประเทศอีรัก
  3. เทวรูปเทพเซอุส ที่อารามโอลิมเปีย ประเทศกรีก สร้างเมื่อประมาณ 462 ปีก่อนคริสตกาล สร้างและตกแต่งด้วยทองคำ งาช้าง และอัญมณีต่างๆ มีความสูง 12 เมตร ภายหลังถูกไฟไหม้เสียหายจนหมดสิ้น
  4. วิหารอาร์ทีมิส (หรือวิหารไดอานา) ที่เอเฟซุสในเอเชียไมเนอร์ (ประเทศตุรกี) สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษก่อนคริสตกาลที่ 4 ภายหลังถูกทำลายโดยพวกโกธส์จากเยอรมันที่บุกเข้ามาโจมตี เมื่อปี พ.ศ. 805 ปัจจุบันพอเหลือซากอยู่บ้าง
  5. ที่บรรจุศพแห่งมอสโซลอส ที่ฮาลิคาร์นัสซัสในเอเชียไมเนอร์ (ประเทศตุรกี) สร้างโดยพระราชินีอาร์เทมิเซีย เป็นอนุสรณ์สถานแก่กษัตริย์มอโซลุสแห่งคาเรียที่สวรรคตเมื่อ 353 ปีก่อนคริสตกาล ถูกทำลายโดยแผ่นดินไหวและต่อมานำไปใช้ในการก่อสร้างโดยอัศวินแห่งโรดส์ ปัจจุบันพอเหลือซากอยู่บ้าง
  6. เทวรูปเฮลิออส แห่งโรดส์ ของกรีก ในทะเลเอเจียน (ประเทศกรีก) เป็นรูปสำริดขนาดใหญ่ของเทพแห่งพระอาทิตย์หรือเฮลิออส สูงประมาณ 32 เมตร ถูกทำลายโดยแผ่นดินไหวหลังการสร้างเพียง 60 ปี ปัจจุบันไม่ปรากฏซาก
  7. ประภาคารฟาโรส แห่งอะเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ สมัยพระเจ้าปโตเลมี ประมาณ 271 ปีก่อนคริสตกาล ถูกทำลายโดยสิ้นเชิงเมื่อแผ่นดินไหวในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 ปัจจุบันมีป้อมขนาดเล็กอยู่บนซากที่เหลือ

เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง

สิ่งมหัศจรรย์ทั้งเจ็ดจัดเป็นสิ่งก่อสร้างของโลกสมัยกลาง ไม่ทราบแน่ชัดว่าใครได้กำหนดไว้ และรายการในยุคกลางก็ระบุไว้ไม่ตรงกัน แต่โดยมากจะยอมรับกับรายการต่อไปนี้

  1. โคลอสเซียม สนามกีฬาแห่งกรุงโรม ประเทศอิตาลี
  2. หลุมฝังศพแห่งอะเล็กซานเดรีย สุสานใต้ดินเมืองอะเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์
  3. กำแพงเมืองจีน ประเทศจีน
  4. สโตนเฮนจ์ ในอังกฤษ
  5. เจดีย์กระเบื้องเคลือบ เมืองหนานกิง ประเทศจีน
  6. หอเอนเมืองปิซา ประเทศอิตาลี
  7. สุเหร่าโซเฟีย แห่งคอนสแตนติโนเปิล (ปัจจุบันคือ กรุงอีสตันบูล) ประเทศตุรกี

เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน

กลุ่มวิศวกรโยธาแห่งสหรัฐอเมริกาได้รวบรวมรายชื่อของเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ในโลกยุคปัจจุบันไว้ดังนี้

  1. อุโมงค์รถไฟใต้ทะเล ประเทศอังกฤษ-ฝรั่งเศส
  2. ซีเอ็น ทาวเวอร์ ประเทศแคนาดา
  3. เขื่อนอิไตปู ประเทศบราซิล-ปารากวัย
  4. ตึกเอ็มไพร์สเตต ประเทศสหรัฐอเมริกา
  5. เดลต้า เวิร์ค ประเทศเนเธอร์แลนด์
  6. สะพานโกลเดนเกต ประเทศสหรัฐอเมริกา
  7. คลองปานามา ทวีปอเมริกาใต้

วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

Corn



Corn (Scientific name: Zea mays Linn.) Thereof, wheat, wheat (above) still (Krabi) Phot (South) Bue K Se (Karen - Mae Hong Son) is a plant family with grass has stems high average 2.2 m size trunk diameter of 0.5-2.0 inch seed pods used as food by humans and animals.


Botanical characteristics.


Corn is a grass plant scrap. With strong upright stems. The spongy texture like sponge about 1.4 meters high leaves are pointed in a straight line approximately 30-100 cm long line of middle leaves are visible. Marginal soft hairy leaves. Male flowers and female flowers on the same beginning. Male inflorescences on the top of the trunk Female inflorescences on the lower leaves of the betel leaf. Sheath and stem the growing of flowers and female. Pods are pale green Enough color to be light-colored.


Origin.

Have been excavated from the remains of corn cobs and corn near the river in New Mexico. (Bar South America) and now widely grown popular in the region can grow in America, Canada, the climatic conditions vary very important source of animal food. Because animals can be either from leaves and seeds.

Imported into Thailand.

For Thailand Thai people know the corn from the animal after World War II by a grandson Sitthiporn Korn corn varieties has led to the planting and animal husbandry trial. While that is still little known. Until after World War 2 and the corn has become ubiquitous due. Royal Suwanvajokkasikit brought the chickens to start a commercial demonstration And encourage people to comply with the chickens is known more for corn than ever before. Because the term corn is expensive and rare. Of corn is used as a component of the staple food. Bran and broken rice, which is mainly But now the animal commonly known corn. And now Thailand have grown corn in the year, as many

Type of corn Corn generally organized into five groups.

Maize or corn (Field Corn) known today as dent corn head (Dent Coorn) and corn intractable (Fint Corn), which is run according to dent corn head or head pound This type of corn seed drying on top and then head straight to the sink to Roy. This is the part of white flour. This type of corn is very important and widely grown in popularity. United States Especially the Corn Belt bar. Color of the seeds ranges from yellow to white. Because there are several varieties of corn protein, less than the refractory Corn intractable Corn is the top seed coat often yellow when dried is organized and very hard. Within the corn kernel that contains a substance classified as a yellow color to a script of chitosan Tea (Cruptoxanthin) compounds when animals are animals, this material will change into vitamin A. In addition, this material also gives a deep red yolk. Allow chicken meat with skin, mouth and shin in yellow. Popular market, especially the UK, America, bar, used white corn.

Corn (Sweet Corn) is the corn that people eat. No transformation Grains tend to shrink when the clear and full. It has a lot of sugar. Before they are ripe sweet than other types of so called sweet corn. There are many varieties.

Popcorn (Pop Corn) is the corn that people eat. No transformation Seeds rather hard Good color and size vary. For foreign If seed corn is called Cape style rice (Rice Corn) If corn seed called Round Pearl (Pearl Corn).


Corn Flour (Flour Corn) seeds have many colors such as white (opaque or a little yellow) or dark blue. Or both white and dark blue in the same pod. Because mutations. They have dark seeds and their mutants called Indian corn (Squaw Corn) or call again called corn cultivars (Native Corn) they will have dark corn Night Scene Sun. Higher corn with white flour.

Corn Candle (Waxy Corn) is the corn that people eat. Flour is unique because it is soft and sticky powder contains starch in their Ann Cummins Lopez pectin. (Amylopectin) the other with corn starch Ann Cummins L'a (Amylose) in the assembly. Making flour is quite hard

Corn for livestock in Thailand, many varieties. Are growing popular in Thailand. Guatemala species P. Yee 12 (Rep.1) Guatemala PB 12 (Rep.2) PB sticky and OPEC -2 5 corn seeds from the white. Yellow to red Depending on the size of the seed varieties. Are generally in the range of 0.5 to 0.8 cm diameter before the animals must be crushed before to help digestion and the mixture was better The ground will be approximately 1-8 mm

Benefits in other areas.

Corn can also promote degradation PAHs contaminated soil, such as feed Nan Previous Next the APU by biodegradable 90% at initial concentration 100 mg / kg [1] and resistant soil doctor contaminated oil. [2] is useful for the implementation of soil remediation contaminated with PAHs and petroleum .

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

Rice
Rice is the annual family can eat the grass seeds have. Monocotyledon is like grass. Rice with some aspects, such as leaf stems and leaves from the grass roots like in Thailand, jasmine rice varieties in the country and is popular throughout the world.

Varieties of rice
Rice consumption is popular in two species is large.

Oryza glaberrima grown only in tropical Africa only. Oryza sativa cultivated rice species in general Oryza sativa to be separated. indica has grown a lot in the tropics. japonica is grown in many warm Javanica.

Rice grown in Thailand is that they are divided into Indica rice and glutinous rice has also been selected and improved human species has always been since the history of cultivation. Rice today. Has many, many varieties around the world to taste and functionality vary. Rice's world-renowned Thai jasmine rice.

Generalization

Important characteristics of rice can be divided into characteristics associated with growth And characteristics related to propagation.

Characteristics associated with growth Characteristics of the Sampan to the growth of rice plants, including roots and leaves.

Root root is the part below the surface. Hold the stem with soil to keep from falling. But sometimes a special happens at any roots that are above ground with No RagKaew rice. However, branching rootlet branching distribution under the surface. Stem hollow look in the middle and divided into any segment. The barrier between an articulation The length of the segment is different. Segment is equal to the number of leaves of rice normally has about 20-25 segment. Leaves from rice leaves for photosynthesis. To change the mineral nutrients, water and carbon dioxide as flour For growth and A grain of rice leaf consists of leaf and leaf pages.

Characteristics related to propagation. Breed rice seeds caused by a combination of pollen from male and female pollen. Important characteristics about the breed, including rice and rice flower shops.

Corn grains (panicle) means inflorescences of rice (Inflorescence) that occurred at any of the last segment of the rice. Distance between an upper segment of the last joint of the flag leaf called Cornyong. Flower Rice refers to the male pollen and pollen for breeding females. Flower Rice husk contains two large sheets to wrap the coordination within the. The outer shell out large sheets called Lake Emma (lemma) of the outer shell of large sheets called Lia took (palea), both these shells. Outside of it may have any coat or no coat.

Means the grain is called flour. Endo sperm (endosperm) and the Cup is ÙÞ. This outer shell covering the two large sheets. Endo sperm starches we eat. ÙÞ Cup is part of life and come out as white when germination took to cultivation.

Type of rice Divided into two types of rice and glutinous rice with almost everything the same, but different where the hard seed

Grain rice contains starch amylose (Amylose) 15-30 percent. Grain rice flour contains pectin Lo Su Min. (Amylopectin) is mostly starch and amylose (Amylose) about 5-7 percent.

Rice trade.
World rice demand of world demand estimated 417.7 million tonnes [1] Thailand is a country that exports the most rice in the world. The proportion of exports 36 percent, followed by India, Vietnam, 20 percent 18 percent 14 percent U.S., Pakistan 12 percent, respectively [2].








TGV

TGV (ฝรั่งเศส : รถไฟความเร็วสูง, ความหมายรถไฟความเร็วสูง) เป็นบริการรถไฟฝรั่งเศสความเร็วสูงที่ดำเนินการโดย SNCF Voyages ปัจจุบันสาขารถไฟทางไกลของ SNCF, ผู้ประกอบการรถไฟแห่งชาติฝรั่งเศส จะได้รับการพัฒนา"ระหว่าง 1970 โดยจี - Alsthom (ปัจจุบัน Alstom) และ SNCF แต่เดิม Designed To Be ขับเคลื่อนโดยกังหันก๊าซต้นแบบ TGV พัฒนา Into ไฟฟ้ารถไฟ ต่อไปนี้บริการ TGV สถาปนาระหว่าง Paris และ Lyon in 1981, เครือข่าย TGV, ศูนย์กลางในปารีสได้ขยายการเชื่อมต่อเมืองในประเทศฝรั่งเศสและในประเทศที่อยู่ติดกัน TGV รถไฟทดสอบขับเคลื่อนโดย Eric Pieczak ชุดบันทึกการเร็วที่สุดรถไฟล้อเป็นถึง 574.8 km / h (357.2 mph) เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2007 . [1] บริการ TGV คำนวณก่อนหน้านี้บันทึกไว้สำหรับการเดินทางทางรถไฟที่เร็วที่สุดที่เริ่มต้นตามกำหนดการ เพื่อหยุดความเร็วเฉลี่ย 279.4 km / h (173.6 mph) [2] [3] ซึ่ง surpassed โดยบริการเหล็กจีน Harmony Express เป็น Wuhan - Guangzhou รถไฟความเร็วสูงในปี 2009

ความสำเร็จของบรรทัดแรกที่นำไปสู่การขยายตัวของปีเครือข่ายมีสายใหม่ขึ้นในภาคใต้, ตะวันตก, เหนือและทางตะวันออกของประเทศ อยากเลียนแบบความสำเร็จของเครือข่ายฝรั่งเศสที่มีประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าวเบลเยียม, อิตาลี, สเปนและเยอรมันสร้างเส้นของตัวเองด้วยความเร็วสูง link TGVs กับวิตเซอร์แลนด์ผ่านเครือข่ายฝรั่งเศสกับเบลเยียมเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์ผ่านเครือข่าย Thalys และยูโรสตาร์เชื่อมโยงเครือข่ายฝรั่งเศสและเบลเยี่ยมกับสหราชอาณาจักร หลายสายวางแผนการขยายรวมภายในประเทศฝรั่งเศสและประเทศรอบ เมืองนี้มีทัวร์ดังกล่าวได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ"เข็มขัดสลับ TGV

"In 2007, SNCF สร้างผลกำไรของ€ 1100000000 (ประมาณ US $ 1.75 หนึ่งพันล้านหรือ £ 875,000,000) ขับเคลื่อนโดยกำไรสูงมากในเครือข่าย TGV .

ประวัติศาสตร์
แนวคิดแรก TGV ได้เสนอใน 1960 หลังจากการก่อสร้างญี่ปุ่น HAD เริ่มทำของชิน (เรียกว่ารถไฟ bullet) ในปี 1959 ในขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศส Favoured เทคโนโลยีใหม่สำรวจผลิตเรือที่แล่นได้อย่างรวดเร็วและยานเบาะอากาศรถไฟฟ้า วลี, SNCF เริ่มการค้นคว้ารถไฟความเร็วสูงจะทำงานซึ่งเรา Conventional ติดตาม ในปี 1976 รัฐบาลมติให้กองทุนบรรทัดแรก โดยกลางปี 1990 สถานีรถไฟที่ได้รับความนิยมประธานหลุยส์เวลส์ประกาศให้รถไฟ TGV ซึ่งบันทึกรถไฟฝรั่งเศส .

พัฒนาการ

มันเป็นแผนเดิมที่ TGV ทั้งมาตรฐานสำหรับความเร็วสูงมาก ("มากความเร็วสูง) หรือความเร็วสูง turbine (กังหันความเร็วสูง) จะขับเคลื่อนด้วยหัวรถจักรกังหันผลิตกระแสไฟฟ้าก๊าซ กังหันแก๊สโดยเลือกขนาดที่เล็กของพวกเขาอัตรากำลังน้ำหนักที่ดีและมีความยืดหยุ่นสินเชื่อเพื่อการส่งกำลังสูงในช่วงปีขยาย" ต้นแบบแรก TGV TGV 001 เป็นก่อสร้างเฉพาะกับเครื่องยนต์นี้ต่อไปนี้เพิ่มขึ้นราคาน้ำมัน"ในช่วงวิกฤตพลังงาน 1973 กังหันก๊าซ Were ถือว่าไม่ได้ผลและโครงการหันมาใช้ไฟฟ้าจากสายเหนือศีรษะ คือ To Be ไฟฟ้าที่สร้างโดยโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของฝรั่งเศสใหม่

TGV 001 ไม่ได้ต้นแบบ [เสีย 7] ITS powerplant กังหันก๊าซเป็นเพียงหนึ่งในเทคโนโลยีมากสำหรับการเดินทางทางรถไฟความเร็วสูง จะทดสอบการเบรคความเร็วสูงที่จำเป็นในการกระจายพลังงานจลน์มากจำนวนรถไฟความเร็วสูงให้อากาศพลศาสตร์ความเร็วสูงและส่งสัญญาณ IT WAS พูดชัดแจ้งเช่นรถม้าสองติดกันปิศาจอนุญาตให้เคลื่อนไหวฟรียังควบคุมเกี่ยวกับหนึ่งอีก มันถึง 318 km / h (198 mph) ซึ่งคงอยู่บันทึกความเร็วโลกสำหรับรถไฟไม่ใช่ไฟฟ้า ภายในและภายนอกมัน Were สไตล์โดยนักออกแบบบริติชเกิด Jack Cooper, whos งานเมดพื้นฐานการออกแบบ Early TGV จมูกที่โดดเด่นรวมถึงรูปร่างของรถยนต์พลังงานแรก

เปลี่ยน TGV เพื่อดึงไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญต้องออกแบบยกเครื่อง ต้นแบบไฟฟ้าแรกฉายา Zebulon แล้วเสร็จในปี 1974, การทดสอบคุณสมบัติใหม่ดังกล่าวมีตัวติดตั้งมอเตอร์, pantographs, เบรกและช่วงล่าง ตัวติดตั้งมอเตอร์เกิน 3 ตันอนุญาตให้ตัดออกจากไฟรถยนต์และลดลงอย่างมาก unsprung น้ำหนัก ต้นแบบ Travelled เกือบ 1,000,000 กม. (620.000 ไมล์) ในระหว่างการทดสอบ

ในปี 1976 รัฐบาลฝรั่งเศสได้รับทุนสนับสนุนโครงการ TGV และก่อสร้าง LGV Sud - Est, สายความเร็วสูงครั้งแรก (ฝรั่งเศส : สายความเร็วสูง)

ริ่มการหลังจากนั้นช้า เป็นสายให้ไว้แต่งตั้ง LN1, New Row (New Line หมาย 1) หลังจากที่สองก่อนการผลิต Trainset (ฉายา Patrick และ Sophie) ได้รับการทดสอบและแก้ไขมากรุ่นผลิตแรกได้ถูกส่งเมื่อ 25 เมษายน 1980.

ประวัติบริการ

TGV เปิดให้ประชาชนระหว่าง Paris และ Lyon ที่ 27 กันยายน 1981 ขัดก่อนบริการรวดเร็ว STI, บริการ SNCF TGV สำหรับทุกประเภทผู้โดยสารมี Saami มีราคาตั๋วสำหรับรถไฟที่ทำงานในสาย Conventional ขนาน กับความเข้าใจผิดที่นิยมต่อต้าน TGV ที่จะบริการพิเศษอื่นสำหรับนักเดินทางธุรกิจ, SNCF ได้เริ่มแคมเปญประชาสัมพันธ์"ที่สำคัญโดยเน้นความเร็วความถี่นโยบายสำรองปกติและเข้าถึงครอบคลุมของบริการ . [8] นี้มีความผูกพัน democratised เพิ่มเติมบริการ TGV ได้เพิ่มในยุค Mitterrand กับคำขวัญส่งเสริมการขาย"หมายถึงไม่มีอะไรคืบหน้านอกจากจะใช้ร่วมกันทั้งหมด . TGV ได้มากได้เร็วกว่ารถไฟปกติรถหรือเครื่องบิน รถไฟเป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวางต้อนรับอย่างรวดเร็วสาธารณะและภาคปฏิบัติเดินทาง

LGVs เพิ่มเติมได้เปิด : TGV Atlantique (LN2) เพื่อการท่องเที่ยว / Le Mans (ก่อสร้างเริ่มทำในปี 1985 ในปี 1989 การดำเนินการ), LGV Nord - Europe (LN3) เพื่อ Calais และชายแดนเบลเยียม (ก่อสร้างเริ่มทำในปี 1989 ในปี 1993 การดำเนินการ) LGV Rhône - Alpes (LN4) ขยาย LGV Sud - Est ให้วาเลนซ์ (ก่อสร้างเริ่มทำในปี 1990 ในปี 1992 การดำเนินงาน) และ TGV Méditerranée (LN5) เพื่อ Marseille (การก่อสร้างเริ่มทำในปี 1996 ในปี 2001 การดำเนินการ) LGV Est จากปารีสไป Strasbourg ได้เปิดวันที่ 15 มีนาคม 2007 และเปิดให้ประชาชนในฤดูร้อนปี 2007 ในเดือนแรกของการทำงานมากกว่า 1,000,000 ผู้โดยสารเดินทางในบรรทัด TGV สายความเร็วสูงบนเครือข่ายเทคโนโลยีการเชื่อมต่อกับฝรั่งเศสได้ถูกสร้างในเบลเยียม, เนเธอร์แลนด์และสหราชอาณาจักร

เหตุการณ์สำคัญ

TGV เป็นของโลก quatrieme บริการความเร็วเชิงพาณิชย์สูงรถไฟและวัดมาตรฐาน Third บริการรถไฟความเร็วสูง [10] หลังจากญี่ปุ่นชินคันซึ่งต่อแรกโตเกียวและโอซาก้าวันที่ 1 ตุลาคม 1964 และ ER200 รัสเซียรอบปี 1964 และสหราชอาณาจักร Intercity 125 สำหรับ มือของสหราชอาณาจักรสายดังกล่าวมี East Coast Mainline และบริการใดเข้าไปในปี 1976 TGV ปัจจุบันถือบันทึกความเร็วโลกสำหรับ Conventional, ล้อ / รางรถไฟ ที่ 3 เมษายน 2007 รถไฟ TGV POS แก้ไขถึง 574.8 กม. ต่อชั่วโมง (357.2 mph) ภายใต้เงื่อนไขการทดสอบเป็น TGV Est

TGV, รายการไฟ runsThe สามารถติดตามการทดสอบระหว่าง Strasbourg Paris และได้เพิ่มขึ้นถึง 31 เควีและบัลลาสต์พิเศษ tamped เข้าเป็นทางขวาของ จะชนะบันทึกความเร็วของโลก 1990 515.3 km / h (320.2 mph) ตั้งโดยเหมือนกับรถไฟ Raccourcissement (สองรถยนต์ไฟฟ้าและรถตู้โดยสารสาม) พร้อมกับบันทึกทางการตั้งสัปดาห์ระหว่างก่อนใช้บันทึกอย่างเป็นทางการ เป็นส่วนหนึ่งของปีทดสอบโปรแกรมการวิจัยโดย Alstom .

TGV เป็นรถไฟในปี 2007 ตามกำหนดการที่เร็วที่สุดในโลก Conventional : หนึ่งของการเดินทางโดยเฉลี่ยเริ่มต้นเพื่อหยุดความเร็วจาก Lorraine TGV เพื่อ Champagne - Ardenne TGV IS 279.3 km / h (173.5 mph) . [2] [3] howeve นี้ ถูกบันทึก surpassed ที่ 26 ธันวาคม 2009 โดยเพิ่งเปิดใหม่หวู่ฮั่น - Guangzhou [รถไฟความเร็วสูง 13] ในประเทศจีนรถไฟเร็วที่สุด Scheduled WHERE ครอบคลุม 922 km (572.9 miles) ความเร็วเฉลี่ยของปี 312.54 km / h (194.2 mph)

รถไฟยูโรสตาร์ยากจนบันทึกสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศที่ยาวที่สุดไม่หยุดความเร็วสูงในโลก 17 พฤษภาคม 2006 cast และ filmmakers Carrying ของรหัสลับดาวินชีจากลอนดอนไปเมืองคานส์สำหรับ Cannes Film Festival คือ 1.421 กิโลเมตร (883.0 ไมล์) เดินทาง Took 7 ชั่วโมง 25 นาที (เฉลี่ย 191.6 km / h หรือ 119 mph) .

บันทึกการทำงานระยะยาวเร็วเป็นชุดโดยเครือข่ายรถไฟ TGV เดินทางจาก Calais เพื่อ Marseille Frethun (1,067.2 km, 663 mi) ใน 3 ชั่วโมง 29 นาที (306 km / h หรือ 190 mph) เพื่อเปิดการ TGV Méditerranée ที่ 26 พฤษภาคม 2001 .

สถานี

trainshed ที่ Paris Gare de Lyon สถานี Avignon TGV Réseau TGV 540 Trainset ที่ Rennes ในมณฑลบรีตัน ยูโรสตาร์และ Thalys PBA ด้านข้างโดยใน Paris Gare du Nord TGV Thalys และแบ่งปันแพลตฟอร์มที่บทความ Brussels - South รถไฟ stationMain : รายชื่อสถานี TGV หนึ่งในข้อดีของมือเทคโนโลยีอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็วกว่ารถไฟ TGV มี levitation แม่เหล็กดังกล่าวอยู่ที่สามารถใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ TGVs นี้ทำให้การเชื่อมต่อใจกลางเมือง (เช่น Paris - Gare de Lyon เพื่อ Lyon Perrache) โดยข้อเสนอ TGV ง่ายและราคาไม่แพง TGVs มักจะใช้เพลงเมืองภายในและสถานีสร้างขึ้นสำหรับรถไฟความเร็วต่ำ

Howeve, LGV มีแนวโน้มออกแบบถนนเพื่อสร้างสถานีกลางใหม่ในเขตชานเมืองหรือในชนบทเปิดหลายกิโลเมตรห่างจากเมือง นี้ TGVs อนุญาตให้หยุดไม่ได้เกิดขึ้นมากเกินไปปรับเวลาหนึ่งตั้งแต่อยู่ที่ใช้เวลาในการติดตามความเร็วสูงในนอกจากนี้สถานีเมืองหลาย'จะสิ้นสุด - stub ขณะ TGV เพลงบ่อยข้ามเมือง ในบางกรณีสถานีได้ถูกสร้างครึ่งทางระหว่างสองชุมชน สถานีบริการ Montceau - les - Mines และ Le Creusot ya ตัวอย่าง UNE และมีตัวอย่างแย้งขึ้นเป็นสถานีโอแคว้นปีการ์, ระหว่าง Amiens และ Saint Quentin กดและหน่วยงานท้องถิ่นมี criticized Haute เป็นแคว้นปีการ์ไกลจากเมืองที่สะดวกทั้งสองและห่างจากทางรถไฟเชื่อมต่อไปยังเป็นประโยชน์สำหรับนักเดินทาง ได้ฉายา beets สถานีสถานีหรือ'สถานี beet'เป็นจะถูกล้อมรอบด้วยเขต beet น้ำตาลระหว่างการก่อสร้าง . ชื่อเล่น This Is Now ประยุกต์สถานีเดียวกันห่างจากเมืองและใจกลางเมืองไม่ว่าในบริเวณใกล้เคียง beet เขตข้อมูลหรือไม่ New สถานีรถไฟได้ถูกสร้างบริการ TGV ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสาขาวิชาสถาปัตยกรรมเสียสละความสำเร็จในสิทธิของตนเอง สถานี Avignon TGV เปิดในปี 2001 มี - รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในที่สุดโดดเด่นเป็นสถานีเครือข่ายที่มีงดงาม 340 m (1,115 ฟุต) ยาวหลังคากระจกที่ได้รับ"เปรียบเทียบกับโบสถ์ .



โรคภูมิแพ้อากาศ
โรคภูมิแพ้จมูก (Allergic Rhinitis) หรือที่เรียกว่า "แพ้อากาศ" นี้ พญ.มนิณทร วรรณรัตน์ กุมารแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลเวชธานี ได้ให้ข้อมูลว่า เป็นโรคที่พบบ่อยในประเทศไทย โดยเฉพาะในผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่น มากกว่า 80% ของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ มีอาการก่อนอายุ 20 ปี แต่ก็สามารถพบได้ในคนทุกวัย โรคภูมิแพ้จมูกนี้มีอาการเรื้อรัง สร้างความรำคาญให้แก่ผู้ป่วย และอาจเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้ เช่น ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ เป็นต้น

ภูมิแพ้จมูกเกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งการทำงานต้องผ่านกระบวนการระบบการทำงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะการทำงานที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจและการทำงานต้องผ่านขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับทางเดินอาหารซึ่งเมื่อเปรียบเทียบดูแล้ว

ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้จมูก จะมีปฏิกิริยาตอบสนองไวเกินต่อสารก่อภูมิแพ้ เมื่อมีสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกาย สารอิมมูโนโกลบูลินอี (Immunoglobulin E: IgE) ที่ถูกสร้างขึ้นจะเข้าทำปฏิกิริยากับสารก่อภูมิแพ้ที่หายใจเข้าไป เป็นผลให้เซลล์บางชนิดภายในจมูก มีการแตกตัวและหลั่งสารเคมีออกมาทำให้เกิดการอักเสบ และมีอาการต่าง ๆ ของโรคตามมา

ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้จมูก

กรรมพันธุ์ ถ้าพบว่าบิดาหรือมารดาเป็นโรคภูมิแพ้ ลูกมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้สูงถึง 50% และถ้าทั้งบิดาและมารดาเป็นโรคภูมิแพ้ ลูกมีโอกาสเป็นเพิ่มขึ้นถึง 70% และมักจะมีอาการเร็วสิ่งแวดล้อม สารก่อภูมิแพ้มักจะเป็นสารที่เด็กได้รับเข้าไป ซึ่งอาจเป็นจากการหายใจ สัมผัส รับประทาน หรือฉีดเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งแบ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้ในบ้าน เช่น ฝุ่น, ไรฝุ่น, แมลงสาบ, รังแคหรือขนของแมวและสุนัข, เชื้อราในอากาศ, ควันบุหรี่ สารก่อภูมิแพ้นอกบ้าน เช่น ละอองหญ้า, เกสรดอกไม้, ฝุ่นละออง, ควันจากรถยนต์, ควันไฟจากการหุงต้มอาหาร, ก๊าซพิษปัจจัยอื่นๆ เช่น ทารกที่ได้รับนมมารดาเพียงอย่างเดียวเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน พบว่ามีโอกาสเกิดภูมิแพ้น้อยลง, ทารกที่ได้รับอาหารเสริมตั้งแต่อายุ 4 เดือนมีโอกาสเกิดโรคภูมิแพ้มากกว่าทารกที่ไม่ได้รับอาหารเสริมถึง 3 เท่า

อาการของโรค

ผู้ป่วยจะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล จามบ่อย คันในจมูก และมีเสมหะไหลลงคอ โดยอาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นตลอดปี หรือเพียงบางฤดูกาลก็ได้ โดยเฉพาะฤดูฝนหรือฤดูหนาว บางรายอาจมีอาการทางตาร่วมด้วย เช่น คันตา เคืองตา ตาบวม น้ำตาไหล อันเกิดจากการอักเสบของเยื่อบุภายในตา ที่เรียกว่า Allergic conjunctivitis ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการเฉพาะบางเวลา เช่น ตอนเช้าหรือกลางคืน ประมาณวันละ1-2 ชั่วโมง อาการของโรคนี้ต่างจากอาการหวัดอย่างไร

อาการของโรคภูมิแพ้จมูกมักมีอาการเรื้อรังเป็นๆ หาย ๆ อาการเด่น คือ มีน้ำมูกใส จาม และคัดจมูก คันจมูก บางครั้งอาจมีอาการคันตาร่วมด้วย โดยมักไม่มีไข้ อาจมีอาการไอเรื้อรังด้วย เนื่องจากมีเสมหะไหลลงคอทำให้ระคายคอ แต่หากมีอาการไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามร่างกายร่วมด้วยน่าจะเป็นหวัดมากกว่า นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้จมูก มักมีคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคในกลุ่มโรคภูมิแพ้ด้วย เช่น โรคภูมิแพ้จมูก โรคหอบหืด แพ้อาหาร ลมพิษเรื้อรัง ผื่นแพ้

ภาวะแทรกซ้อนจากโรคภูมิแพ้จมูก โรคไซนัสอักเสบ

ไซนัส คือ โพรงอากาศที่อยู่ในกระดูกบริเวณใกล้จมูกมีส่วนท่อต่อกับจมูก ทำให้อากาศผ่านเข้าออกได้ เมื่อเยื่อบุภายในจมูกบวมอักเสบ จะทำให้ท่อต่อนี้อุดตัน เกิดการติดเชื้อในโพรงไซนัส เกิดเป็นโรคไซนัสอักเสบ โดยมีอาการปวดบริเวณไซนัส ปวดศีรษะ น้ำมูกเขียว บางครั้งมีเสมหะไหลลงคอ หูชั้นกลางอักเสบ ผู้ป่วยมีอาการปวดหู หูอื้อ ถ้าเป็นเรื้อรังอาจมีหนองไหลออกจากหูเนื่องจากมีเยื่อแก้วหูทะลุ

นอนกรน ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้จมูกจะมีเยื่อบุจมูกบวม บางครั้งอาจมีต่อมทอนซิลและต่อมอะดีนอยด์โตร่วมด้วย มีผลทำให้ช่องทางเดินหายใจถูกอุดกั้น และมีอาการกรนเกิดขึ้น ถ้าอาการรุนแรงอาจมีการหยุดหายใจเป็นช่วงๆ ขณะนอน ออกซิเจนต่ำ และมีผลต่อสมอง ทำให้เด็กสมาธิสั้น ส่งผลต่อพฤติกรรมและการเรียนรู้ได้ การรักษาและการป้องกัน

ในครอบครัวที่ทารกมีโอกาสเกิดโรคภูมิแพ้ ควรส่งเสริมให้มีการเลี้ยงลูกด้วยนมมารดาเพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ได้แก่ การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนาน 30 นาที ความถี่ 3-4 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อก่อให้เกิดการปฏิชีวนะการทำงานของหน่วยงานราชการและการทำงานที่มาพร้อมกับการส่งเสริมการทำงานที่มีประสิทธิภาพและกรทำงานที่ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ที่พร้อมจะทำให้เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย

การดูแลสิ่งแวดล้อม

ห้องนอนควรใช้เครื่องนอนที่เหมาะสม ไม่ควรใช้หมอนหรือที่นอนที่ทำจากนุ่น และควรหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำ งดใช้พรม ไม่สะสมหนังสือ ของเล่นหรือตุ๊กตาที่มีขนในห้องนอน ทำความสะอาดที่นอน หมอน ผ้าห่มเป็นประจำ โดยใช้การซักด้วยน้ำร้อน 60 องศา นาน 15-20 นาที เพื่อฆ่าตัวไรฝุ่น และตากแดดให้แห้ง ควรทำความสะอาด ดูดฝุ่น เช็ดถูพื้นเรือน ผ้าม่าน และทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศเป็นประจำ งดการสูบบุหรี่ในบ้าน ไม่ควรใช้แป้งฝุ่น สเปรย์ปรับอากาศ และยาจุดกันยุง อาจเลือกใช้ผ้าใยสังเคราะห์พิเศษเพื่อคลุมที่นอนและหมอน เพื่อป้องกันไรฝุ่น หรือใช้เครื่องกรองอากาศชนิดที่เป็น HEPA Filter ไม่เลี้ยงสัตว์ที่มีขนในบ้าน เช่น แมว สุนัข

การกำจัดขยะและเศษอาหารต่าง ๆ ควรมีฝาปิดมิดชิดเพื่อป้องกันแมลงสาบ หลีกเลี่ยงสารระคายเคือง เช่น ท่อไอเสียรถยนต์ การล้างจมูก ในกรณีมีน้ำมูกปริมาณมากหรือเป็นไซนัสอักเสบ กรณีที่พยายามหลีกเลี่ยง และพยายามออกกำลังกายแล้วอาการยังมีอยู่แนะนำให้พบแพทย์เฉพาะทางและรับการรักษาดังนี้

ยาต้านฮีสตามีนหรือยาแก้แพ้แบบรับประทาน ยาลดจมูกบวม แก้คัดจมูก การให้ยาพ่นจมูกเป็นประจำเพื่อป้องกันการเกิดภูมิแพ้ การให้การรักษาโดยวิธี Desensitization (การให้วัคซีนภูมิแพ้) เป็นการรักษาโรคภูมิแพ้ที่ต้นเหตุ และพบว่ามีอัตราการหายขาด 60–80 % ในรายที่มีโรคแทรกซ้อนของภูมิแพ้ เช่น ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ ให้รีบรับการรักษาที่ถูกต้องโดยแพทย์เฉพาะทาง โดยการให้ยาปฏิชีวนะ