วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553
วันคริสมาส
คริสมาสต์ เป็นคำทับศัพท์ภาษา อังกฤษ Christmas มาจากคำภาษาอังกฤษโบราณว่า Christes Maesse ที่แปลว่า "บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า" คำว่า" Christes Maesse" พบครั้งแรกในเอกสารโบราณเป็นภาษาอังกฤษในปี ค.ศ. 1038 และในปัจจุบันคำนี้ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas
ประวัติความเป็นมาของวันคริต์มาส
ซึ่งเป็นวันเกิดของพระเยซูนั้น ตามหลักฐานในพระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า พระเยซูเจ้าประสูติในสมัยที่จักรพรรดิซีซาร์ ออกุสตุส แห่งจักรวรรดิโรมัน ซึ่งทรงสั่ง ให้จดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งแผ่นดิน โดยฝ่ายคีรีนิอัส เจ้าเมืองซีเรียก็รับนโยบายไปปฏิบัติให้มีการจดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งอาณาเขต แต่ในพระคัมภีร์ ไม่ได้ระบุว่า พระเยซูประสูติวัน หรือเดือนอะไร ด้านนักประวัติศาสตร์วิเคราะห์ว่า เดิมทีวันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันที่จักรพรรดิเอาเรเลียนแห่งโรมัน กำหนดให้เป็นวันฉลองวันเกิดของสุริยะเทพ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 274 ชาวโรมันซึ่งส่วนใหญ่นับถือเทพเจ้าฉลองวันนี้เสมือนว่า เป็นวันฉลองของพระจักรพรรดิไปในตัวด้วย เพราะจักรพรรดิก็เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ ที่ให้ความสว่างแก่ชีวิตมนุษย์ แต่ชาวคริสต์ที่อยู่ในจักรวรรดิโรมัน รวมถึงชาวโรมันที่เปลี่ยนไปนับถือคริสต์อึดอัดใจที่จะฉลองวันเกิดของสุริยเทพ จึงหันมาฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้าแทน หลังจากที่ชาวคริสต์ถูกควบคุมเสรีภาพทางศาสนา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 64-313 จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม ปี ค.ศ. 330 ชาวคริสต์จึงเริ่มฉลองคริสต์มาสอย่างเป็นทางการและเปิดเผย
องค์ประกอบในการฉลองคริสมาสต์
1. คำอวยพร
สำหรับเทศกาลคริสมาสใช้ คำอวยพรว่า Merry Christmas สุขสันต์วันคริสต์มาส คำว่า Merry ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า สันติสุขและความสงบทางใจ จึงเป็นคำที่ใช้อวยพรคนอื่น ขอให้เขาได้รับสันติสุข และความสงบทางใจ เนื่องในโอกาสเทศกาลคริสต์มาส ต่อมาคือ "เพลง" ที่ใช้เฉลิมฉลองทั้งจังหวะช้าและจังหวะสนุกสนาน ส่วนใหญ่แต่งในยุคพระราชินีวิกตอเรีย แห่งอังกฤษ (ค.ศ.1840-1900) ปัจจุบันแพร่หลายไปทั่วโลกโดยแปลเป็นภาษาต่างๆ มากมาย
2.ซานตาครอส
นักบุญ(เซนต์)นิโคลัสแห่งเมืองไมรา นักบุญองค์นี้เป็นสังฆราช ของ ไมรา มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่4 ได้รับการยกย่องให้เป็นซานตาคลอสคนแรก เพราะวันหนึ่งท่านปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านของเด็กหญิงยากจนคนหนึ่งแล้วทิ้งถุงเงินลงไปทางปล่องไฟ บังเอิญถุงเงินหล่นไปทางถุงเท้าที่เด็กหญิงแขวนตากไว้ข้างเตาผิงพอดี ซานตาครอสจริงๆแล้ว แทบจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเทศกาลนี้เลย
นักบุญนิโคลาส เป็นนักบุญ ที่ชาวฮอลแลนด์นับถือว่าเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของเด็กๆ เมื่อชาวฮอลแลนด์กลุ่มหนึ่งอพยพไปอยู่ในสหรัฐฯ ก็ยังรักษาประเพณีการฉลองนักบุญ นิโคลาส ในวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งหมายถึงนักบุญนี้จะ มาเยี่ยม เด็กๆ และเอาของขวัญมาให้เด็กอื่นๆ ที่ไม่ใช่ลูกหลานของชาวฮอลแลนด์ที่อพยพมา ก็อยากมีส่วนร่วมในประเพณีแบบนี้บ้างเพื่อรับของขวัญ ประเพณีนี้จึงเริ่มเป็นที่รู้จักและแพร่หลายไปในอเมริกา โดย มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง คือ ชื่อนักบุญนิโคลาสก็เปลี่ยน เป็นซานตาคลอส และแทนที่จะเป็น สังฆราชซึ่งเป็นนักบุญองค์นั้นก็กลายเป็นชายแก่ที่อ้วนใส่ชุดสีแดงอาศัยอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ มีเลื่อน เป็นยานพาหนะมีกวางเรนเดียร์ลาก และจะมาเยี่ยมเด็กทุกคนในโลกนี้ในโอกาสคริสต์มาส โดยลงมา ทางปล่องไฟของบ้านเพื่อเอาของขวัญมาให้ เด็กเหล่านั้นตามความประพฤติ ของเขา
3.ต้นคริสมาสต์
ต้นคริสต์มาสหรือต้นสนที่นำมาประดับประดาด้วยดวงไฟหลากสีสัน การตกแต่งนี้ย้อนไปในศตวรรษที่ 8 เมื่อเซนต์บอนิเฟส มิชชันนารี ชาวอังกฤษที่เดินทางไปประกาศเรื่องพระเจ้าในเยอรมนี ได้ช่วยเด็กที่กำลังจะถูกฆ่าเป็นเครื่องสังเวยบูชาที่ใต้ต้นโอ๊ก โดยเมื่อโค่นต้นโอ๊กทิ้งก็ได้พบต้นสนเล็กๆ ต้นหนึ่งขึ้นอยู่โคนต้นโอ๊ก ท่านจึงขุดให้คนที่ร่วมพิธีกรรมเหล่านั้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ของชีวิตและตั้งชื่อว่า ต้นกุมารพระคริสต์ต่อมา มาร์ติน ลูเธอร์ ผู้นำคริสตจักรชาวเยอรมัน ตัดต้นสนไปตั้งในบ้านในเดือนธันวาคม ปีค.ศ.1540 หลังจากนั้นในศตวรรษที่ 19 ต้นคริสต์มาสจึงเริ่มแพร่ไปสู่ประเทศอังกฤษและทั่วโลก
4.การทำมิสซาเที่ยงคืน
เมื่อพระสันตะปาปาจูลีอัสที่ 1 ได้ประกาศให้วันที่ 25 ธันวาคมเป็นวันฉลองพระคริสตสมภพ (วันคริสต์มาส)ในปี นั้นเองพระองค์และสัตบุรุษ ได้พากันเดินสวดภาวนา และขับร้องไปยังตำบล เบธเลเฮม และไปยังถ้ำที่พระ เยซูเจ้าประสูติ พอไปถึงก็เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี พระสันตะปาปาก็ทรงถวายบูชามิซซา ณ ที่นั้น เมื่อเสร็จแล้วก็กลับมาที่พักเป็นเวลาเช้ามืดราวๆ ตี 3 พระองค์ก็ถวาย มิสซาอีกครั้ง และ สัตบุรุษเหล่านั้นก็พากันกลับ แต่ก็ยังมีสัตบุรุษหลายคนที่ไม่ได้ไป พระสันตะปาปาก็ทรงถวายบูชามิสซาอีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งที่ 3 เพื่อสัตบุรุษเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้เองพระ สันตะปาปาจึงทรงอนุญาตในพระสงฆ์ถวายบูชามิสซาได้ 3 ครั้ง ในวันคริสต์มาส เหมือนกับการปฏิบัติของพระองค์ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจึงมีธรรมเนียมถวายมิสซาเที่ยงคืน ในวันคริสต์มาส และพระสงฆ์ก็สามารถถวายมิสซาได้ 3 มิสซา ใน โอกาสวันคริสต์มาส
5.เทียนและพวงมาลัย
ในสมัยก่อนมีกลุ่มคริสตชนกลุ่มหนึ่งในประเทศเยอรมัน ได้เอากิ่งไม้มาประกอบ เป็นวงกลมคล้ายพวงมาลัย แล้วเอาเทียน 4 เล่ม วางไว้บนพวงมาลัยนั้น ในตอนกลางคืนของวันอาทิตย์แรกของ เทศกาลเตรียมรับเสด็จ ทุกคนในครอบครัวจะมารวมกัน ดับไฟ แล้วจุดเทียนเล่มหนึ่ง สวด ภาวนาและร้องเพลงคริสต์มาสร่วมกัน เขาจะทำดังนี้ทุก อาทิตย์จนครบ 4 อาทิตย์ก่อน คริสต์มาส ประเพณีนี้เป็นที่นิยม และแพร่หลายในที่หลายแห่ง โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกาซึ่งต่อมา มีการเพิ่ม โดยเอาพวงมาลัยพร้อมกับเทียนที่จุดไว้ตรง กลาง 1 เล่มไป แขวนไว้ที่หน้าต่างเพื่อช่วย ให้คนที่ ผ่าน ไปมา ได้ระลึกถึงการเตรียมตัวรับวันคริสต์มาสที่ใกล้เข้ามา และพวงมาลัยนั้นยังเป็น สัญลักษณ์ที่คน สมัยโบราณใช้หมายถึงชัยชนะ แต่ในที่นี้หมายถึงการที่พระองค์มาบังเกิดในโลก และ ทำให้ทุกสิ่ง ทุกอย่างครบ บริบูรณ์ตามแผนการณ์ ของพระเป็นเจ้า
6.เพลงคริสมาสต์
เพลงคริสต์มาส เริ่มมีขึ้นในศตวรรษที่ 5 ซึ่งผู้แต่งมีทั้งพระสงฆ์และฆราวาส เนื้อร้องเป็นภาษาลาติน ลักษณะของเพลงเป็นแบบสง่า เน้นถึงความหมายของการเสด็จมา ของพระเยซูเจ้า แต่ใน ศตวรรษที่ 12 ได้มีการแต่งในท่วงทำนองที่ร่าเริงสนุกสนานมากขึ้น เริ่มจากประเทศอิตาลี โดยนักบุญฟรังซิส อัสซีซี และนักบวชคณะฟรังซิสกัน เป็นผู้สนับสนุน ให้มีเพลงคริสต์มาสแบบใหม่ ซึ่งชาวบ้านชอบ คือมีท่วงทำนองที่ร่าเริงกว่า และเน้นถึงความชื่นชมยินดี ในโอกาสคริสต์มาส เพลงเหล่านี้มีทั้งที่เป็นภาษาลาติน และภาษาพื้นเมือง เพลงหนึ่งที่แต่งในสมัยนั้น (แต่งคำร้องในปี ค.ศ.1274) และยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน คือ เพลง Oh Come, All Ye Faithful หรือ Adeste Fideles ในภาษาลาติน เพลงคริสต์มาสที่นิยมร้องมากที่สุดในปัจจุบันได้แต่งขึ้นในศตวรรษที่ 19 จาก ประเทศเยอรมัน และประเทศอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ เพลงที่มีชื่อเสียงมากได้แก่ เพลง Silent Night, Holy Night ความเป็นมาของเพลงนี้คือ วันก่อนวันฉลองคริสต์มาส ของปี ค.ศ.1818 คุณพ่อ โจเซฟ โมห์ (Joseph Mohr) เจ้าอาวาสวัดที่โอเบิร์นดอฟ (Oberndorf) ประเทศออสเตรีย ได้ข่าวว่าออร์แกนในวัดเสีย ทำให้วงขับร้อง ไม่สามารถร้องเพลงตามที่ซ้อมไว้ได้ จึงมีการแต่งเพลง คริสต์มาสใหม่ นำไปเพื่อนชื่อ ฟรานซ์ กรูเบอร์ (Franz Gruber)ใส่ทำนอง ในคืนวันที่ 24 นั้นเอง สัตบุรุษวัดนี้ ก็ได้ฟังเพลง Silent Night เป็นครั้งแรก โดยมีการเล่นกีตาร์ประกอบการขับร้อง ซึ่งกลายเป็นเพลงที่นิยมมากที่สุดทั่วโลก
โอ้โห!!! วันคริสต์มาสเนี่ย!!! น่าสนุกจริงๆเลยนะเจ้าค่ะ ที่สำคัญ วันเนี่ย...เพื่อนๆหลายๆคนอาจจะได้ของขวัญจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ จากคนรัก จากพ่อ แม่ และจากใครหลายๆคนอีกด้วย....ก็ขอให้ Happy Happy ทุกคนนะเจ้าค่ะ...
วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553
สมุนไพร
ความจริงคนส่วนใหญ่ก็พอรู้ๆ กันว่า สมุนไพรไทยเป็นสิ่งที่มีคุณค่าใช้ประโยชน์ได้จริง และใช้ได้อย่างกว้างขวาง แต่เป็นเพราะว่าเราใช้วิธีรักษาโรคแผนใหม่มานานมากจนวิชาแพทย์แผนโบราณที่มีสมุนไพรเป็นยาหลักถูกลืมจนต่อไม่ติด
ภาครัฐเริ่มกลับมาเห็นคุณค่าของสมุนไพรไทยอีกครั้งด้วยการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไว้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2535 ว่า " ให้มีการผสมผสานการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเข้ากับระบบบริการสาธารณสุขของชุมชนอย่างเหมาะสม"
บทความข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งในคำนำของหนังสือ "สรรพคุณสมุนไพร 200 ชนิด" ซึ่งเภสัชกรหญิงสุนทรี สิงหบุตรา เภสัชกรด้านเภสัชสาธารณสุข หัวหน้าฝ่ายวิชาการ กองเภสัชกรรม สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้รวบรวมและเรียบเรียง ได้บันทึกไว้ ซึ่งต่อมาทางสำนักอนามัยฯ ได้นำหนังสือดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อใช้ประโยชน์ในงานของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ การนี้ ทางโครงการฯ เห็นว่าเนื้อหาในหนังสือมีคุณค่าและให้ประโยชน์กับผู้ที่ร่วมงานกับโครงการฯ รวมถึงบุคคลทั่วไป จึงได้นำขึ้นเผยแพร่ในเวบไซต์โครงการฯ
จึงหวังว่าผู้ที่เข้ามาหาข้อมูลและได้อ่านเรื่องต่างๆ ในเวบไซต์นี้คงได้รับความรู้และอาจนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับตนเองหรือบุคคลรอบข้างได้ไม่มากก็น้อย..
สมุนไพร หมายถึง พืชที่มีสรรพคุณในการรักษาโรค หรืออาการเจ็บป่วยต่าง ๆ การใช้สมุนไพรสำหรับรักษาโรค หรืออาการเจ็บป่วยต่างๆ นี้ จะต้องนำเอาสมุนไพรตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปมาผสมรวมกันซึ่งจะเรียกว่า "ยา" ในตำรับยา นอกจากพืชสมุนไพรแล้วยังอาจประกอบด้วยสัตว์และแร่ธาตุอีกด้วย เราเรียกพืช สัตว์ หรือแร่ธาตุที่เป็นส่วนประกอบของยานี้ว่า "เภสัชวัตถุ"พืชสมุนไพรบางชนิด เช่น เร่ว กระวาน กานพลู และจันทน์เทศ เป็นต้น เป็นพืชที่มีกลิ่นหอมและมีรสเผ็ดร้อน ใช้เป็นยาสำหรับขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ พืชเหล่านี้ถ้านำมาปรุงอาหารเราจะเรียกว่า "เครื่องเทศ" ในพระราชบัญญัติยาฉบับที่ 3 ปีพุทธศักราช 2522 ได้แบ่งยาที่ได้จากเภสัชวัตถุนี้ไว้เป็น 2 ประเภทคือ
1. ยาแผนโบราณ[1] หมายถึง ยาที่ใช้ในการประกอบโรคศิลปะแผนโบราณหรือในการบำบัดโรคของสัตว์ ซึ่งมีปรากฏอยู่ในตำรายาแผนโบราณที่รัฐมนตรีประกาศ หรือยาที่รัฐมนตรีประกาศให้เป็นยาแผนโบราณ หรือได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนตำรับยาเป็นยาแผนโบราณ
2. ยาสมุนไพร หมายถึงยาที่ได้จากพืชสัตว์แร่ธาตุที่ยังมิได้ผสมปรุงหรือแปรสภาพสมุนไพรนอกจากจะใช้เป็นยาแล้ว ยังใช้ประโยชน์เป็นอาหาร ใช้เตรียมเป็นเครื่องดื่ม ใช้เป็นอาหารเสริม เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง ใช้แต่งกลิ่น แต่งสีอาหารและยา ตลอดจนใช้เป็นยาฆ่าแมลงอีกด้วย ในทางตรงกันข้าม มีสมุนไพรจำนวนไม่น้อยที่มีพิษ ถ้าใช้ไม่ถูกวิธีหรือใช้เกินขนาดจะมีพิษถึงตายได้ ดังนั้นการใช้สมุนไพรจึงควรใช้ด้วยความระมัดระวังและใช้อย่างถูกต้อง ปัจจุบันมีการตื่นตัวในการนำสมุนไพรมาใช้พัฒนาประเทศมากขึ้น สมุนไพรเป็นส่วนหนึ่งในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนิน โครงการ สมุนไพรกับสาธารณสุขมูลฐาน[2] โดยเน้นการนำสมุนไพรมาใช้บำบัดรักษาโรคใน สถานบริการสาธารณสุขของรัฐมากขึ้น และ ส่งเสริมให้ปลูกสมุนไพรเพื่อใช้ภายในหมู่บ้านเป็นการสนับสนุนให้มีการใช้สมุนไพรมากยิ่งขึ้น อันเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยประเทศชาติประหยัดเงินตราในการสั่งซื้อยาสำเร็จรูปจากต่างประเทศได้ปีละเป็นจำนวนมาก
สมุนไพร หมายถึง “พืชที่ใช้ทำเป็นเครื่องยา” ส่วน ยาสมุนไพร หมายถึง “ยาที่ได้จากส่วนของพืช สัตว์ และแร่ ซึ่งยังมิได้ผสมปรุง หรือ แปรสภาพ” ส่วนการนำมาใช้ อาจดัดแปลงรูปลักษณะของสมุนไพรให้ใช้ได้สะดวกขึ้น เช่น นำมาหั่นให้มีขนาดเล็กลง หรือ นำมาบดเป็นผงเป็นต้นมีแต่พืชเพียงอย่างเดียวหามิได้เพราะยังมีสัตว์และแร่ธาตุอื่นๆอีกสมุนไพร ที่เป็นสัตว์ได้แก่ เขา หนัง กระดูก ดี หรือเป็นสัตว์ทั้งตัวก็มี เช่น ตุ๊กแกไส้เดือน ม้าน้ำ ฯลฯ
"พืชสมุนไพร" นั้นตั้งแต่โบราณก็ทราบกันดีว่ามีคุณค่าทางยามากมายซึ่ง เชื่อกันอีกด้วยว่า ต้นพืชต่างๆ ก็เป็นพืชที่มีสารที่เป็นตัวยาด้วยกันทั้งสิ้นเพียงแต่ว่าพืชชนิดไหนจะมีคุณค่าทางยามากน้อยกว่ากันเท่านั้น
"พืชสมุนไพร" หรือวัตถุธาตุนี้ หรือตัวยาสมุนไพรนี้ แบ่งออกเป็น 5 ประการ
1. รูป ได้แก่ ใบไม้ ดอกไม้ เปลือกไม้ แก่นไม้ กระพี้ไม้ รากไม้ เมล็ด
2. สี มองแล้วเห็นว่าเป็นสีเขียวใบไม้ สีเหลือง สีแดง สีส้ม สีม่วง สีน้ำตาล สีดำ
3. กลิ่น ให้รู้ว่ามรกลิ่น หอม เหม็น หรือกลิ่นอย่างไร
4. รส ให้รู้ว่ามีรสอย่างไร รสจืด รสฝาด รสขม รสเค็ม รสหวาน รสเปรี้ยว รสเย็น
5. ชื่อ ต้องรู้ว่ามีชื่ออะไรในพืชสมุนไพรนั้นๆ ให้รู้ว่า ขิงเป็นอย่างไร ข่า เป็นอย่างไร ใบขี้เหล็กเป็นอย่างไร
ปัจจุบันมีผู้พยายามศึกษาค้นคว้าเพื่อพัฒนายาสมุนไพรให้สามารถนำมาใช้ในรูปแบบที่สะดวกยิ่งขึ้น เช่น นำมาบดเป็นผงบรรจุแคปซูล ตอกเป็นยาเม็ด เตรียมเป็นครีมหรือยาขี้ผึ้งเพื่อใช้ทาภายนอก เป็นต้น ในการศึกษาวิจัยเพื่อนำสมุนไพรมาใช้เป็นยาแผนปัจจุบันนั้น ได้มีการวิจัยอย่างกว้างขวาง โดยพยายามสกัดสารสำคัญจากสมุนไพรเพื่อให้ได้สารที่บริสุทธิ์ ศึกษาคุณสมบัติทางด้านเคมี ฟิสิกส์ของสารเพื่อให้ทราบว่าเป็นสารชนิดใด ตรวจสอบฤทธิ์ด้านเภสัชวิทยาในสัตว์ทดลองเพื่อดูให้ได้ผลดีในการรักษาโรคหรือไม่เพียงใด ศึกษาความเป็นพิษและผลข้างเคียง เมื่อพบว่าสารชนิดใดให้ผลในการรักษาที่ดี โดยไม่มีพิษหรือมีพิษข้างเคียงน้อยจึงนำสารนั้นมาเตรียมเป็นยารูปแบบที่เหมาะสมเพื่อทดลองใช้ต่อไป
วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
จอห์น บี. ดอดด์ ชาวอเมริกันเป็นผู้ริเริ่มแนวคิดของวันพ่อแห่งชาติ โดยเริ่มต้นที่เมืองแฟร์มอนต์ รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย โดยเริ่มครั้งแรกเมื่อ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2461 ในโบสถ์แห่งหนึ่งในแฟร์มอนต์
19 มีนาคม - สเปน โปรตุเกส อิตาลี
8 พฤษภาคม - เกาหลีใต้
5 มิถุนายน - เดนมาร์ก
วันอาทิตย์ที่สามของเดือนมิถุนายน - ญี่ปุ่น อาร์เจนตินา ไอร์แลนด์ มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร
23 มิถุนายน - โปแลนด์
อาทิตย์ที่สองของเดือนสิงหาคม - บราซิล
อาทิตย์แรกของเดือนกันยายน - ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
อาทิตย์ที่สองของเดือนพฤศจิกายน - ฟินแลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน
5 ธันวาคม - ไทย
วันพ่อแห่งชาติ ได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา หลักการและเหตุผลที่มีการจัดตั้งวันพ่อขึ้นแห่งชาติ เนื่องจากพ่อ เป็นบุคคลผู้มีพระคุณและมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัวและสังคม สมควรที่ผู้เป็นลูกจะเคารพเทิดทูนและตอบแทนพระคุณด้วยความกตัญญู และสังคมควรที่จะยกย่องให้เกียรติรำลึกถึงผู้เป็นพ่อ จึงถือเอาวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเป็น "วันพ่อแห่งชาติ" เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะ “พ่อแห่งชาติ” ซึ่งนอกจากพระองค์จะเป็นพระราชบิดาของพระราชโอรสและพระราชธิดา ทรงทะนุบำรุงพระราชโอรสธิดาด้วยความรัก และทรงอบรมอนุศาสน์ให้ทรงเจริญวัยสมบูรณ์ ทรงเป็น "พ่อ" ตัวอย่างของปวงชนชาวไทยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตากรุณา อีกทั้งยังทรงบำเพ็ญคุณานุประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน ทรงพระมหากรุณาทะนุบำรุงขจัดทุกข์ผดุงสุขพสกนิกรถ้วนหน้า พระองค์ทรงเป็น “พ่อแห่งชาติ” ที่อาณาประชาราษฎร์เทิดทูนด้วยความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และยึดมั่นในการเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทในการทะนุบำรุงชาติบ้านเมืองให้วัฒนาถาวรสืบไป
เพื่อเทิดทูนพระเกียรติคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เพื่อเทิดทูนพระคุณของพ่อ และยกย่องบทบาทของพ่อที่มีต่อครอบครัวและสังคม
เพื่อให้ลูกได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อ
เพื่อให้ผู้เป็นพ่อ สำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบของตน
กิจกรรมในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในทุกๆ ปี จะมีการประดับธงชาติในทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ราชการ โรงเรียน บริษัท และบ้านเรือน เพื่อถวายพระพรให้พระองค์ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน และยังมีการทำความสะอาดแม่น้ำลำคลอง ถนน โรงพยาบาล และประดับรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไว้ที่หน้าบริษัทหรือหน่วยงานต่างๆ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย
กิจกรรมสำหรับลูกในวันพ่อแห่งชาติ คือ ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน จัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ หรือบำเพ็ญกุศล ทำบุญใส่บาตร เพื่ออุทิศส่วนกุศล และระลึกถึงพระคุณของพ่อ
นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมประกาศเกียรติคุณ พ่อตัวอย่าง หรือพ่อดีเด่น โดยกำหนดคุณสมบัติ คือ มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ส่งเสริมการศึกษาของบุตร ธิดา นับถือศาสนาโดยเคร่งครัด งดเว้นอบายมุขทุกชนิด อุทิศตนเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณชน
จากการวิจัยของ Tufts University สหรัฐอเมริกา ได้แนะนำว่าสารสกัดจากบลูเบอร์รี่สามารถช่วยป้องกันอาการความจำสั้น
กรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างกรดโอเมก้า 3 ที่พบในปลาที่มีไขมัน หรือไขมันจากวอลนัทและเมล็ดจากต้นแฟล็กซ์ จะมี DHA (Decosapentaenoic Acid) สูง ซึ่งเป็นกรดที่สำคัญต่อเซลล์สมองของเรา เพราะถ้าหากระดับของ DHA ในร่างกายต่ำ จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์และความจำเสื่อมได้ นอกจากนี้ปลาก็ยังมีไอโอดีน ช่วยให้ความจำดีขึ้น
มีหลักฐานยืนยันว่า ไลโคพีนซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่พบในมะเขือเทศ สามารถช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายของอนุมูลอิสระ ที่พบในอาการของโรควิกลจริตและโรคอัลไซเมอร์
คนที่เป็นโรคอัลไซเมอร์จะมี Homocysteine อยู่ในปริมาณที่สูง กรดโฟลิกและวิตามินบี 12 จะสามารถช่วยขัดขวางการสะสมของ Homocysteine ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ และซีเรียลเองก็เป็นแหล่งที่ดีของวิตามินบี 12 แถมยังมีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนอีกด้วย ช่วยให้พลังงานนานและทำให้ความจำ Alert ตลอดทั้งวัน
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าวิตามินซีจะช่วยเสริมสร้างความจำของเราให้ว่องไวขึ้น และแหล่งที่มีวิตามินซีอยู่เยอะก็คือ ต้น Black Currant
สังกะสีมีความสำคัญในการช่วยเพิ่มความจำและทักษะในการคิด ดังนั้น หากคุณกินเมล็ดฟักทองวันละ 1 กำมือ จะทำให้ได้รับสังกะสีเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
2.ด้านกฎหมาย และการเมือง เจริญก้าวหน้ายิ่งกว่าชาติอื่นๆ กฎหมายของโรมันเป็นกฎหมายที่มีลักษณะยืดหยุ่นตายตัว เริ่มด้วยกฎหมาย 12 โต๊ะ หลังจากนั้นก็มีกฎหมายเพิ่มเติมเรื่อยๆโดยสภาซีเนต
3.สถาปัตยกรรม แม้ส่วนใหญ่จะได้รับแบบอย่างมาจากกรีกแต่ก็ได้มีการดัดแปลงและประดิษฐ์คิดค้นขึ้นเองด้วย
3.1 สถาปัตยกรรมที่เป็นแบบฉบับของโรมันแท้ได้แก่ สิ่งก่อสร้างรูปโดมตอนส่วนบนของอาคารประตูชัย ท่อระบายน้ำ และประชุมกลางเมืองที่เรียกว่า “ฟอรุม”
3.2 สถาปัตยกรรมที่โรมันนำของกรีกมาดัดแปลงได้แก่การใช้เสาระเบียงจำนวนน้อยกว่าอาคารของกรีก ส่วนแบบการก่อสร้างรูปโค้งเหนือประตูและหน้าต่างอาคารนั้น โรมันดัดแปลงมาจากอีทรัสแคน
1.โรมันเป็นชาติแรกที่ทำคอนกรีตขึ้นใช้
2. สถาปัตยกรรมโรมันส่วนใหญ่เน้นที่ประโยชน์ใช้สอย ขนาด ( ใหญ่โตและแข็งแรง) และความสง่างาม (ด้วยการตกแต่งประดับประดาอย่างหรูหราและโออ่า)
3. ตัวอย่างสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงของโรมันได้แก่ วิหารพาเธนอน หลังคารูปโดม ในกรุงโรม อัฒจันทร์สำหรับดูกีฬา โคลอสเซียม ซึ่งจุผู้ดูได้ถึง 4,500 คนสร้างในสมัยจักรพรรดิตีตุสเมื่อ ค.ศ.80
4.ประติมากรรม โรมันำแบบอย่างของกรีกมาดัดแปลง แต่เน้นที่ความโอ่อ่า ความสง่างามและความเข้มแข็ง นิยมแกะสลักภาพเต็มตัวและภาพนูน
5. ทางหลวงแผ่นดิน เป็นชาติแรกที่สร้างถนนกว้าง 25x10 ฟุต ปูด้วยหินลงรากลึกหลายฟุต ใช้ได้ทุกฤดูกาล ทางหลวงแผ่นดินที่มีชื่อเรียกว่า Via Appia สร้างเมื่อ 300 ปีก่อนคริสตกาล ยังปรากฏอยู่จนตราบเท่าปัจจุบัน
6. การแพทย์และการสาธารณสุข
6.1 เป็นชาติแรกที่สามารถทำคลอดทารกโดยวิธีผ่าตัดทางหน้าท้อง วิธีดังกล่าวเรียกว่า ศัลยกรรมแบบซีซาร์ นอกจากนี้ยังมีความรู้ความสามารถในการผ่าตัดโรคคอพอกและนิ่ว
6.2 เป็นชาติแรกที่ให้กำเนิดโรงพยาบาลแห่งแรกในยุโรป
6.3 จัดให้มีการรักษาความสะอาดในกรุงโรม มีทางระบายโสโครก จัดหาน้ำสะอาดสำหรับใช้บริโภค และมีการลำเลียงน้ำจากแหล่งน้ำไปสู่แหล่งกันดารน้ำด้วยระบบท่อ
6.4แพทย์โรมันชื่อ กาเลน รวบรวมและจัดทำตำรับยา
6.5 มีสถานที่อาบน้ำสาธารณะทั่วไป
วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
การปกครองแบบประชาธิปไตย
ความเจริญด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์สาขาต่างๆ เช่น
1 วิชาชีววิทยาเบื้องต้น
2 ริเริ่มการวินิจฉัยโรค และเก็บรายงานประวัติคนไข้
ข้อควรทราบ
-ผู้ริเริ่มวิชาชีววิทยา คือ อริสโตเติล
-แพทย์กรีกคนแรกที่ค้นพบว่าหัวใจ คืออวัยวะที่ทำหน้าที่สูบฉีดโลหิตคือ อเลเมออน
ผู้นำทางวิชาการแพทย์ของกรีก คือ เอมพีโดคลีส
-คนแรกที่ริเริ่มทำศัลยกรรม และการใช้ยาบำบัดโรคคือ ฮิพพอคราตีส ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งการแพทย์
ความเจริญด้านอักษรศาสตร์
-ร้อยกรอง กรีกเป็นผู้ให้กำเนิดการประพันธ์ประเภทกาพย์ และกลอน(ซึ่งยุโรปรับถ่ายทอดในสมัยต่อมา) กาพย์ที่สำคัญที่ดีเด่นลีลาการใช้ภาษา และสำนวนได้แก่มหาหาพย์ชื่ออีเลียด และโอดีสซี ของกวีเอกชื่อ โอเมอร์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการสดุดีวีรกรรมของวีรบุรุษ
-การละคร มีการกำเนิดมาจากการละเล่นเพื่อบูชาเทพเจ้า ภายหลังมีผู้นำมาใช้แสดงละคร
-โคลงและกลอน กวีกรีกที่มีชื่อเสียง ได้แก่ เฮซอย ได้รับสมญานาณว่า นักประพันธ์ขวัญใจชาวนา พินดาร์ แซฟโฟ เป็นต้น
-การเขียนประวัติศาสตร์ ปราชญ์กรีกได้รับการยกย่องว่าเป็น บิดาแห่งประวัติศาสตร์ คือ เฮโรโดตุส
ความเจริญด้านศิลป์
-ศิลปะของกรีกมีชื่อเรื่องความงาม ความละเอียดอ่อนและความประณีต เป็นความเจริญที่มีพร้อมทั้งในด้านสถาปัตยกรรม ประติมากรรมและวิจิตรศิลป์
-ด้าน๕ณิตศาสตร์ ปราชญ์กรีกชื่อ ไพธากอรัส เป็นผู้สร้างทฤษฎีบททางเรขาคณิต ที่ว่าพื้นที่จัตุรัสบนด้านทแยงของสามเหลียมมุมฉาก เท่ากับผลบวกของพื้นที่สี่เหลี่ยมจุตุรัสบนด้านที่เหลืออีกสองด้าน
-ด้านภูมิศาสตร์ ปราชญ์กรีกที่ชือ่ เอราทอสทีเทส ใช้ความรู้วิชาตรีโกณมิติคำนวณขนาดของโลกได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง (สมัยปัจจุบัน) มากที่สุดเปฌนคนแรก และต่อมา คลอดอุส ทอเลมี นำผลงานของเอราทอสทีเนสมาใช้ในการทำแผนที่โลก ทำให้ได้แผนที่โลกที่ดีที่สุดมีใช้กันในยุคนั้น
ด้านปรัชญา ปรัชญาสาขาต่างๆที่กรีกโบราณริเริ่มได้แก่
1.จักรวาลวิทยา ความจริงเรื่องโลก
2.ญานวิทยา ค้นคว้าเรื่องขอบเขต และความสามารถทางความรู้ของมนุษย์
3.ตรรกวิทยา หลักควบคุมความคิดที่ถูกต้อง
4.จริยศาสตร์
5.สุนทรียศาสตร์ ว่าด้วยความงามที่แท้จริง
วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
วิธีทำ: ผสมน้ำผึ้งกับน้ำมะนาวให้เข้ากัน นำมานวดให้ทั่วใบหน้าประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด
มะนาว จะช่วยขจัดเซลล์ผิวเช่นเดียวกับครีมที่ผสมกรด AHA ส่วนน้ำผึ้งจะทำให้ผิวหน้านุ่มและชุ่มชื้น
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ: นำเนื้อแอปเปิ้ลมาปั่นรวมกับน้ำผึ้ง ทาให้ทั่วใบหน้าแล้วนวดเบาๆ ทิ้งไว้ 15 นาที หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็น
สูตรนี้จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ทำให้ใบหน้าดูสดใสเปล่งปลั่ง อีกด้วย
น้ำผึ้งหรือนมเปรี้ยว
วิธีทำ: ใช้กล้วยหอม แตงกวาหรือมะเขือเทศก็ได้ เติมน้ำผึ้งหรือนมเปรี้ยว นำไปปั่นให้ละเอียดจนเป็นเนื้อครีม นำมาพอกให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
สูตรนี้จะ ช่วยทำความสะอาดใบหน้า และกระชับรูขุมขนและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
น้ำมันดอกทานตะวัน
มะนาวสด1½ ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ: ผสมโยเกิร์ต น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมะนาวสดให้เข้ากัน นำมาพอกให้ทั่วหน้าประมาณ 5 นาที ทุกเช้าและก่อนนอน แล้วจึงล้างออก ด้วยน้ำสะอาด
สูตรนี้ใช้ได้กับทุกสภาพผิว จะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอีกด้วย
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ: บดกล้วยกับน้ำผึ้ง ผสมให้เข้ากัน นำมาพอกให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น จะทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้น
สูตรนี้เหมาะกับผิวแห้ง
ไข่ไก่ 1 ฟอง(ใช้เฉพาะไข่ขาว)
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ: นำแตงกวา ไข่ไก่(ใช้เฉพาะไข่ขาว)และมะนาว ไปปั่นจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาพอกให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบปากและดวงตา ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างหน้าตามปกติ หมั่นทำบ่อยๆ ทุกสัปดาห์ จะช่วยลดความมันส่วนเกิน และยังช่วยกระชับรูขุมขน ผิวหน้าจะ ดูเนียนเรียบและชุ่มชื้น
ภาชนะที่ใช้ใส่ผลไม้ ส่วนผสมต่างๆ ควรใช้แก้วหรือกระเบื้อง
ก่อนทำการพอกหน้า ควรทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาด โดยการอัง ใบหน้ากับไอน้ำและนวดเบาๆ เพื่อเปิดรูขุมขน
เวลาพอกหน้าไม่ควรพูดคุยหรืออ่านหนังสือ
เลขโรมัน
เป็นระบบตัวเลขที่ใช้ในโรมโบราณ เลขโรมันถือเป็น ระบบเลขไม่มีหลัก หมายความว่า ไม่ว่าจะเขียนตัวเลขแต่ละตัวไว้ ณ ตำแหน่งใดของค่าตัวเลขนั้นจะมีค่าคงที่เสมอ ระบบเลขโรมันมีสัญลักษณ์ที่ใช้กันดังนี้
I หรือ i มีค่าเท่ากับ 1
V หรือ v มีค่าเท่ากับ 5
X หรือ x มีค่าเท่ากับ 10
L หรือ l มีค่าเท่ากับ 50
C หรือ c มีค่าเท่ากับ 100
D หรือ d มีค่าเท่ากับ 500
M หรือ m มีค่าเท่ากับ 1,000
นอกจากนี้ ยังมีสัญลักษณ์อื่นที่ไม่ได้ใช้ในระบบเลขโรมันปัจจุบัน แต่ปรากฏอยู่ในรหัสยูนิโคด ดังนี้
ↀ (U+2180) มีค่าเท่ากับ 1,000
ↁ (U+2181) มีค่าเท่ากับ 5,000
ↂ (U+2182) มีค่าเท่ากับ 10,000
ↇ (U+2187) มีค่าเท่ากับ 50,000
ↈ (U+2188) มีค่าเท่ากับ 100,000
การเขียนเลขโรมัน
การเขียนเลขโรมัน สามารถเขียนแทนเฉพาะจำนวนเต็มบวกเท่านั้น เนื่องจากในสมัยก่อนโรมยังไม่มีสัญลักษณ์แทนเลขศูนย์หรือเลขทศนิยมโดยให้เขียนจากสัญลักษณ์ที่มีค่ามากแล้วลดหลั่นกันไปยังสัญลักษณ์ที่มีค่าน้อย เช่น
MCCCXXV มีค่าเท่ากับ 1,000 + 300 + 20 + 5 = 1,325
MMMDLXVII มีค่าเท่ากับ 3,000 + 500 + 60 + 7 = 3,567
ถ้าเขียนสัญลักษณ์ที่มีค่าน้อยกว่าไว้ด้านหน้าสัญลักษณ์ที่มีค่ามากกว่า ค่าของจำนวนที่ได้จะมีค่าเท่ากับจำนวนที่มีค่ามากลบด้วยจำนวนที่มีค่าน้อย และจะเขียนสัญลักษณ์เพียงคู่เดียวในแต่ละหลักเท่านั้น เช่น
IX มีค่าเท่ากับ 10 − 1 = 9
XL มีค่าเท่ากับ 50 − 10 = 40
MCMLXXVII มีค่าเท่ากับ 1,000 + (1,000 − 100) + 70 + 7 = 1,977
MMCDLXVIII มีค่าเท่ากับ 2,000 + (500 − 100) + 60 + 8 = 2,468
จำนวนที่มีค่าเกินกว่าที่กำหนดไว้ตามสัญลักษณ์ดังกล่าว จะเขียน บาร์ (ขีด) ไว้บนสัญลักษณ์เหล่านี้ ซึ่งหากบาร์ถูกกำหนดไว้บนสัญลักษณ์ใด สัญลักษณ์นั้นจะแทนจำนวนซึ่งมีค่าเท่ากับสัญลักษณ์นั้นคูณด้วย 1,000 เช่น
V มีค่าเท่ากับ 5 × 1,000 = 5,000
X มีค่าเท่ากับ 10 × 1,000 = 10,000
L มีค่าเท่ากับ 50 × 1,000 = 50,000
C มีค่าเท่ากับ 100 × 1,000 = 100,000
D มีค่าเท่ากับ 500 × 1,000 = 500,000
M มีค่าเท่ากับ 1,000 × 1,000 = 1,000,000
โดยปกติแล้ว การเขียนเลขโรมันจะไม่เขียนสัญลักษณ์เดียวกันอยู่ติดกันตั้งแต่ 4 ตัวขึ้นไป ยกเว้นบนหน้าปัดนาฬิกา ที่จะใช้ IIII แทนเวลา 4 นาฬิกาหรือ 16 นาฬิกา เพื่อป้องกันความสับสนในการอ่านเวลา
วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553
The word guava in English is Guava, which comes from the Spanish word Guayaba and Portuguese word Goiaba guava has a native other is dipping nude (Surat Thani) Pink (Pattani) Ma Kuay (Chiang Mai, northern) Ma gang. unit check (above), Maka (Klang, Mae Hong Son), Ma, China (TAK), Ma it (above), John Moody personality State Bun Drug (Malaya Narathiwat), John Ring (Lawa) in Chiang Mai Ya focus (South) Ya Village (South) and Sida (Nakhon Phanom, Narathiwat).
Guava is a tree 3-10 m high single leaf bark smooth oval Sort opposite edges parallel to mingle 3-8 cm long, 6-14 cm wide single flower or bouquet of flowers from a corner 2-3 leaves with white corolla. Pollen fall a lot easier. The result is fresh.
The herb
Fresh boiled guava leaves. The effect of the anti-inflammatory bowel diarrhea using a paint blister rash resolve.
Boil the water, guava, dry The voice of the placebo effect cure.
Western Vietnam - Western folk to big than 2 to 3 times was imported from Vietnam to be planted at the Rose from 2521 to 2523 .
Western Kim Joo - Western Wireless is a beautiful cream colored seeds, sweet mellow frame.
Western Oval trolley - the Union first to grow a lot. Later, the golden key to the Union. Is growing ever smaller.
Western Golden Key - the most widely grown in Thailand When mature, white to the full framework initially planted at Rose. Later spread.
Western Wireless seeds - a long ball style taste inferior to seedless guava, golden key, and Kim Joo.
Cane (UK: Sugar-cane, a science Saccharum officinarum Linn. GRAMINEAE) Also known as bitter or cane sugar cane is a herbaceous plant, black high purple red stem 2-5 meters. Covered with egg white. Not a single broken branch leaves 2.5 to 5 cm long, sort switch from 0.5 to 1 meter wide bouquet of flowers out of the white tip of a small dry.
Strain
There are several sugarcane varieties at different heights. Length and color of the stems. Sugarcane is a crop that farmers grow a lot. Sugarcane juice used for drinking water. Sugarcane is grown Plain. Area of clay People call it yellow, or cane sugar cane grown very popular in Singapore in the Ang Thong province. Ayutthaya and Suphan Buri, Nakhon Pathom and so on.
Suphan Buri Field Crops Research Act 2550. (Now renamed. Suphanburi Agricultural Research and Development), Department of Agriculture. The research and development of a new sugarcane varieties Oryza sativa 80, which is derived from the hybrid varieties with male parents 85-2-352 parent K84-200 period, selection and breeding for over 11 years of features. the yield of sugarcane growing weight 17.79 tons / ha the average yield of 2.66 tons of sugar CCS / rai. In addition to red rot and wilt disease resistance smut disease was moderate with
Medicinal properties.
Thai Pharmacopoeia using stem diuretic. Using fresh stems 70-90 g or 30-40 g dry, cut into pieces, boil drinking water, divided 2 times a day before the feeding of the nephrotic gonorrhea and drive stones. Folk medicine use expectorate Ogoiแdong have reported that diuretic activity in experimental animals.
วันออกพรรษา หรือ วันปวารณาออกพรรษา เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาวันหนึ่งในประเทศไทย เนื่องจากเป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาจำพรรษา 3 เดือนของพระสงฆ์เถรวาท โดยเป็นวันที่พระสงฆ์จะทำสังฆกรรมปวารณาออกพรรษาในวันนี้ วันออกพรรษาตามปกติ (ออกปุริมพรรษา1) จะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 (ประมาณเดือนตุลาคม) หลังวันเข้าพรรษา 3 เดือน ตามปฏิทินจันทรคติไทย
การออกพรรษานั้น ถือเป็นข้อปฏิบัติตามพระวินัยสำหรับพระสงฆ์โดยเฉพาะ เรียกว่า "ปวารณา" จัดเป็นญัตติกรรมวาจาสังฆกรรมประเภทหนึ่ง ที่ถูกกำหนดโดยพระวินัยบัญญัติให้โอกาสแก่พระสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ร่วมกันตลอดไตรมาสสามารถว่ากล่าวตักเตือนและชี้ข้อบกพร่องแก่กันและกันได้โดยเสมอภาค ด้วยจิตที่ปรารถนาดีซึ่งกันและกัน เพื่อสามารถให้พระสงฆ์ที่ถูกตักเตือนมีโอกาสรับรู้ข้อบกพร่องของตนและสามารถนำข้อบกพร่องไปแก้ไขปรับปรุงตัวให้ดียิ่งขึ้น
เมื่อถึงวันออกพรรษา พุทธศาสนิกชนถือเป็นโอกาสอันดีที่จะเข้าวัดเพื่อบำเพ็ญกุศลแก่พระสงฆ์ที่ตั้งใจจำพรรษาและตั้งใจปฏิบัติธรรมมาตลอดจนครบไตรมาสพรรษากาลในวันนี้ และวันถัดจากวันออกพรรษา 1 วัน (แรม 1 ค่ำ เดือน 11) พุทธศาสนิกชนในประเทศไทยยังนิยมไปทำบุญตักบาตรครั้งใหญ่ เรียกว่า ตักบาตรเทโว หรือ ตักบาตรเทโวโรหนะ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในพุทธประวัติที่กล่าวว่า ในวันถัดวันออกพรรษาหนึ่งวัน พระพุทธเจ้าได้เสด็จลงจากเทวโลกกลับจากการโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในพรรษาที่ 7 เพื่อลงมายังเมืองสังกัสสนครพร้อมกับทรงแสดงโลกวิวรณปาฏิหาริย์เปิดโลกทั้งสามด้วยนอกจากนี้ ช่วงเวลาออกพรรษาตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำเดือน 11 ถึง วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ถือเป็นเวลากฐินกาลตามพระวินัยปิฎกเถรวาท เป็นช่วงเวลาที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยจะเข้าร่วมบำเพ็ญกุศลเนื่องในงานกฐินประจำปีในวัดต่าง ๆ ด้วย โดยถือว่าเป็นงานบำเพ็ญกุศลที่ได้บุญกุศลมากงานหนึ่ง
ความสำคัญวันออกพรรษา คือ วันที่สิ้นสุดระยะการจำพรรษาเป็นเวลา 3 เดือน (นับแต่วันเข้าพรรษา) เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วันมหาปวารณา" คำว่า "ปวารณา" แปลว่า "อนุญาต" หรือ "ยอมให้" ในวันออกพรรษานี้พระสงฆ์จะประกอบพิธีทำสังฆกรรมใหญ่ เรียกว่า มหาปวารณา เป็นการเปิดโอกาสให้ภิกษุว่ากล่าวตักเตือนกันได้ เพราะในระหว่างเข้าพรรษา พระสงฆ์บางรูปอาจมีข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข การให้ผู้อื่นว่ากล่าวตักเตือนได้ ทำให้ได้รู้ข้อบกพร่องของตน และยังเปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัยซึ่งกันและกันด้วย
การประกอบพิธีทางศาสนาในวันออกพรรษาในประเทศไทย
พุทธศาสนิกชนถือเป็นโอกาสอันดีที่จะเข้าวัดเพื่อบำเพ็ญกุศลแก่พระสงฆ์ที่ตั้งใจจำพรรษาและตั้งใจปฏิบัติธรรมมาตลอดจนครบไตรมาสพรรษากาลในวันนี้ นอกจากนี้พุทธศาสนิกชนยังนิยมร่วมกันทอดกฐิน ในระยะเวลา 1 เดือนหลังออกพรรษา มีทั้ง จุลกฐิน และ มหากฐิน อย่างไรก็ดี ในแต่ละท้องถิ่นยังมีประเพณีอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น การแข่งเรือ การเทศน์มหาชาติ เป็นต้น
ในวันออกพรรษานี้กิจที่ชาวบ้านมักจะกระทำก็คือ การบำเพ็ญกุศล เช่น ทำบุญตักบาตร จัดดอกไม้ ธูป เทียน ไปบูชาพระที่วัด และฟังพระธรรมเทศนา ของที่ชาวพุทธนิยมนำไปใส่บาตรในวันนี้ก็คือ ข้าวต้มมัดไต้ และข้าวต้มลูกโยน และการร่วมกุศล "ตักบาตรเทโว" ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11
ในหมู่ชาวไทยและชาวลาวริมฝั่งแม่น้ำโขง เชื่อว่าในช่วงวันออกพรรษา จะเกิดปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคขึ้นในเวลากลางคืน ที่จังหวัดหนองคายอีกด้วย
กิจกรรมต่างๆ ที่ควรปฏิบัติในวันออกพรรษา- ทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติผู้ล่วงลับ
- ไปวัดเพื่อปฏิบัติธรรม ฟังพระธรรมเทศนา
- ร่วมกิจกรรม "ตักบาตรเทโว" (วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11)
- ปัดกวาดบ้านเรือนให้สะอาด ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือนและสถานที่ราชการและประดับธงชาติและธงธรรมจักร ตามวัดและสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา
- ตามสถานที่ราชการ สถานที่ศึกษาและที่วัด ควรจัดให้มีนิทรรศการ การบรรยาย หรือ บรรยายธรรม เกี่ยวกับวันออกพรรษา เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนและผู้สนใจทั่วไป
หมายเหตุ: ออกปุริมพรรษา คือการออกพรรษาต้น เป็นการเข้าและออกพรรษาตามปกติตามพระวินัยพุทธานุญาต พระสงฆ์ที่ออกพรรษาต้นจะได้รับกรานกฐินและได้รับอานิสงส์กฐิน แต่สำหรับพระสงฆ์ที่ออกพรรษาในกรณียกเว้นคือ ออกปัจฉิมพรรษา จะไม่มีโอกาสได้รับกฐินและอานิสงส์กฐิน เพราะจำพรรษาในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 9 จึงต้องจำครบ 3 เดือน และต้องออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เป็นเวลาหมดกฐินกาลพอดี (วันรับกฐินได้จะนับวันวันถัดจากวันออกพรรษาแล้ว 1 วัน)
การลดหน้าท้อง นั้น สามารถทำได้โดยการออกกำลัง กายโดยใช้กล้ามเนื้อหน้าท้อง เช่นการ sit up วิธีง่าย ๆ ก็คือให้อบอุ่นร่างกายก่อนเป็นเวลา 15 นาที อาจจะทำ ได้โดยการวิ่งเหยาะ ๆ หรือเดินเร็วจนเริ่มเหนื่อยนิด ๆ จากนั้นให้นอนหงายลงกับพื้น เอาสองมือประสานไว้ที่ ใต้ศรีษะแล้วยกตัวขึ้นมา 45 องศา ค้างไว้นิดหน่อย ( นับ 1 - 5 ในใจ ) แล้วค่อย ๆ ทิ้งตัวลงนอนราบเหมือน เดิม ทำแบบนี้วันละ 10 ครั้ง จะช่วยได้
ปัญหาของไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้หญิงอย่างเรา จะสวมใส่เสื้อผ้าที่
ต้องเลือกแล้วเลือกอีกกว่าจะพรางบริเวณนั้นได้ ช่างเป็นอะไรที่ทรมานจิตใจที่สุดจะไปไหนมาไหนต้องเสียเวลากับเรื่องนี้เรื่องเดียว แต่อย่าเพิ่งกังวลใจเรามีวิธีลดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องมาแนะนำยังไงก็ลองทำดูนะคะ
1.วิธีการรับประทานอาหารควรเคี้ยวให้ช้า ๆ และค่อย ๆ กลืน การเคี้ยวอาหารอย่างช้าเป็นการช่วยให้ระบบย่อยอาหารไม่มีปัญหา และการกลืนต้องระวังเรื่องอากาศถ้าเข้าท้องมาก ๆ ท้องคุณอาจบวมได้คะ
2.วิธีดื่มน้ำไม่ควรดื่มน้ำไปทานอาหารไป จะทำให้อาหารที่อยู่ในกระเพาะคุอยู่นานขึ้น การดื่มน้ำควรจะดื่มก่อนหรือหลังสัก 30 นาทีจะมีผลดีกว่าคะ
3.วิธีการกดเส้น ก็เป็นอีกวิธีที่สามารถช่วยลดอาการบวมหรือการกระตุ้นการย่อยอาหารได้ คุณใช้ปลายนิ้วกดลงที่ใต้เข่าบริเวณหน้าแข้งกดไว้สักประมาณ 1 นาที แล้วค่อย ๆ ปล่อยมือออกจะช่วยได้มาก
4.วิธีเติมน้ำมะนาวลงในเครื่องดื่ม น้ำมะนาวจะช่วยให้อาหารเคลื่อนผ่านระบบในร่างกายของคุณเป็นอย่างดีและถูกต้อง
5.วิธีแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ คุณหาน้ำว่านหางจระเข้มาดื่มสักแก้ว จะช่วยให้กระเพาะอาหารของคุณดีขึ้นและรู้สึกหายจากอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้มากคะ
เป็นดอกไม้ตัวแทนชนชั้นสูง ราชวงศ์ หรือกษัตริย์ ทนนานและมีพลังฉลาดแฝงอยู่มากเป็นพิเศษ คนราศีมังกรจึงเต็มไปด้วยความฉลาด มีความคิดวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน เป็นดอกไม้แห่งความสำเร็จจึงมักจะมีผู้ให้การช่วยเหลือหรืออุปถัมภ์ตลอด
อย่างที่บอกแล้วว่าเป็นนักวางแผนที่ดี มีการวางแผนด้านการเงินเป็นเลิศ จึงเหมาะกับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ อาชีพที่เหมาะคือ วิศวกร สถาปนิก ผู้ผลิตรายการสื่อต่าง ๆ งานเกี่ยวกับการเงิน ด้านความรักเป็นคนที่จริงใจและซื่อสัตย์ เพราะคนราศีมังกรจะเป็นพวกหัวอนุรักษนิยมเกี่ยวกับประเพณีและความเชื่อมาก
ดอกกล้วยไม้ เป็นดอกไม้ประจำราศีกุมภ์ ผู้ที่เกิดระหว่าง 20 ม.ค.-18 ก.พ.
กล้วยไม้เป็นไม้ที่ต้องการการดูแลอย่างดี เป็นตัวแทนของการเอาใจใส่ดูแลอย่างลึกซึ้ง กล้วยไม้มักจะถูกจัดไว้ในที่ที่โดดเด่นโดยมี ดอกไม้อื่นแวดล้อม ชาวราศีกุมภ์จึงเต็มไปด้วยการเอื้ออาทรผู้คนรอบข้าง มีความฉลาดในตัวเอง รักธรรมชาติ ใจกว้าง
ชาวราศีกุมภ์จะชอบสิ่งของไฮเทค จึงเหมาะกับงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี โทรทัศน์ นักเขียน ศิลปิน อีกด้านก็สนใจเรื่องศาสนา ประวัติศาสตร์ และของโบราณ เขาสามารถผสมผสานศาสตร์เก่าและใหม่เข้ากันได้อย่างดี ด้านความรักจะชอบยึดมั่นในคำสัญญา ซื่อสัตย์และจงรักภักดีมาก
ดอกคาร์เนชั่นแดง เป็นดอกไม้ประจำราศีมีน ผู้ที่เกิดระหว่าง 19 ก.พ.-20 มี.ค.
เป็นตัวแทนของศิลปิน เป็นดอกไม้แห่งความฝันอันลึกลับ มีความคิดจินตนาการสูง อาชีพที่เหมาะสมจะเป็นพวกนักแสดง นักเขียน จิตกร นักแต่งเพลง นักวิจารณ์อาหาร นักสังคมสงเคราะห์
คนราศีมีนมีอารมณ์ปรวนแปรง่าย ด้านความรักก็มักจะอ่อนไหว อารมณ์รักปรวนแปรแต่ก็เขาก็เป็นคนมีเส่นห์เร้าใจใช่เล่น มีความชอบส่วนตัวในเรื่องศาสนา และมีสัมผัสพิเศษด้านจิตวิญญาณ หรือ มีสัมผัสที่ 6
ดอกลิลลี่ เป็นดอกไม้ประจำราศีเมษ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 21 มี.ค.-19 เม.ย.
ลิลลี่เป็นดอกไม้แห่งความโดดเด่นและการเป็นผู้นำ นับเป็นดอกไม้อีกชนิดหนึ่งที่มักจะถูกวางไว้ในจุดที่สูงส่ง แต่ถึงแม้จะอยู่ในจุดที่ไม่สูงนักแต่ความเด่นของดอกลิลลี่ก็มักจะเป็นจุดสนใจเสมอ เหมือนกับคนราศีเมษที่จะมีความโดดเด่นกว่าคนอื่น
นักบริหารธุรกิจ นักแสดง นายทหารชั้นผู้ใหญ่ หรือนักประดิษฐ์คิดค้นต่าง ๆ เป็นอาชีพที่เหมาะสมกับคนราศีเมษ ด้านความรักเป็นคนโรแมนติก ชอบการครอบครองและเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ
ดอกลีลาวดี เป็นดอกไม้ประจำราศีพฤษภ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 20 เม.ย.-20 พ.ค.
บุคลิกของดอกลีลาวดีคือการรอคอยสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง มีการคิดและวางแผนระยะยาวอย่างรอบคอบและสุขุม รักสงบและมองโลกในแง่บวก จึงเป็นคนโกรธยากและมีความจำเป็นเลิศ
คนราศีพฤษภจะใช้จ่ายอย่างมีเหตุผลและเป็นนักลงทุนที่ดี เหมาะที่จะทำอาชีพแพทย์ สถาปนิก วิศวกร โบรกเกอร์หุ้น มัณฑนากร เขาเป็นพวกชอบความงามตามธรรมชาติและมีสัมผัสพิเศษในเรื่องปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ส่วนเรื่องความรักจะเป็นคนรักษาสัญญา เห็นอกเห็นใจและปกป้องคู่รักดี
ดอกเล็บมือนาง เป็นดอกไม้ประจำราศีเมถุน ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 21 พ.ค.-20 มิ.ย.
เล็บมือนางเป็นดอกไม้ที่มีความงามเฉพาะตัว มีเสน่ห์แบบง่าย ๆ คนราศีนี้จึงมีความคิดเปิดกว้างและยืดหยุ่นสูง อาชีพที่เด่นและเหมาะที่สุดคือการเป็นนักหนังสือพิมพ์ นักดนตรี ศัลยแพทย์ ช่างภาพ นักกวีและงานที่เกี่ยวกับศิลปะทุกชนิด
แต่คนราศีเมถุนเป็นพวกรสนิยมสูงรายได้ต่ำ จึงมักจะสร้างหนี้สินล้นพ้นตัวอยู่บ่อยครั้ง ด้านความรักเป็นคนอ่อนไหวง่าย ชอบหว่านเสน่ห์และเจ้าชู้ เนื่องจากชอบความรักแบบตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา
ดอกบัว เป็นดอกไม้ประจำราศีกรกฎ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 21 มิ.ย.-22 ก.ค.
จัด เป็นดอกไม้แสนสวย อ่อนหวานและสงบ เรียบร้อย เป็นระเบียบ แต่ก็มักจะจมปลักอยู่กับความฝันอันสวยงามที่วาดขึ้นโดยไม่ยอมตื่น ขึ้นมาพบกับความจริงของชีวิต และมักจะคาดหวังสูง ให้ความใส่ใจในศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์
เป็นคนไม่ชอบความฟุ่มเฟือยนัก แต่หากเป็นเรื่องของการตกแต่งบ้านชาวดอกบัวจะยอมทุ่มไม่อั้น อาชีพที่เหมาะสมคือ นักจิตวิทยา นักลงทุนในตลาดหุ้น หรืองานที่ช่วยประสานงานโครงการต่าง ๆ ด้านความรักเป็นคนโรแมนติก รักคนยาก แต่ถ้าลองได้รักแล้วก็จะซื่อสัตย์มาก ชอบความรักแบบไม่หวือหวาโลดโผน
ดอกทานตะวัน เป็นดอกไม้ประจำราศีสิงห์ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 23 ก.ค.–22 ส.ค.
ดอกทานตะวันจะเต็มไปด้วยความเป็นมิตร ร่าเริง สนุกสนาน ชาวราศีสิงห์ยังเป็นคนไม่เรื่องมาก ไม่ชอบเรียกร้องความสนใจจากใคร เพราะเขาต้องการแสวงหาความสุขใส่ตัวมากกว่าการต้องระวังตัวท่ามกลางคนหมู่มาก
เป็นคนรักและชื่นชอบธรรมชาติ แต่ดันชอบของฟุ่มเฟือย อาชีพที่เหมาะสมคือการเป็นนักเขียน ทนายความ นักพูด ส่วนความรักมักจะไม่ชอบการผูกมัด แต่ชอบแสดงออกเรื่องรักและเป็นคนโรแมนติก เรียกว่าเป็นคนเจ้าชู้เล็ก ๆ ก็ว่าได้
ดอกทิวลิป เป็นดอกไม้ประจำราศีกันย์ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 23 ส.ค.-22 ก.ย.
ดอกทิวลิปเป็นตัวแทนของความนิ่มนวล และการถูกขัดเกลาอย่างดี ชาวราศีกันย์จึงเป็นคนที่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นมากกว่าคนในราศีใด ๆ ชอบเห็นใจผู้อื่น และฉลาดหลักแหลม นอกจากนี้ยังเจ้าระเบียบ และตรงต่อเวลาอย่างมาก
จุดเด่นอีกอย่างที่เป็นที่อิจฉาของใคร ๆ ก็คือเป็นคนที่เก็บเงินเก่ง อาชีพที่เหมาะ คือ แพทย์ บรรณารักษ์ นักวิจารณ์ละครและงานศิลปะ สำหรับเรื่องความรักนั้นจะเต็มไปด้วยความอ่อนหวาน เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน
ดอกกุหลาบ เป็นดอกไม้ประจำราศี ตุล ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 23 ก.ย.–22 ต.ค.
กุหลาบเป็นดอกไม้ที่ประณีต สวยงาม โดดเด่น คนราศีตุลจึงมีเสน่ห์ในวงสนทนาเป็นพิเศษ แต่เขาไม่ใช่คนมีระเบียบมากนัก อาจจะรกรุงรังมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ
นักดนตรีระดับสูง ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์กราฟิก มัณฑนากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ที่ปรึกษาด้านภาพลักษณ์ เป็นอาชีพที่เหมาะสมกับคนราศีนี้ที่สุด เขายังเป็นคนมีความเชื่อด้านความรักอย่างลึกซึ้ง ความรักของเขาจึงเต็มไปด้วยความโรแมนติกและอ่อนหวาน แต่ก็ให้อิสระด้านความคิด
ดอกกระบองเพชร เป็นดอกไม้ประจำราศีพิจิก ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 23 ต.ค.-21 พ.ย.
ดอกกระบองเพชรมีความลึกลับทั้งด้านการเกิดและกลีบดอก ชาวดอกกระบองเพชรจึงมีความลับเยอะ และสิ่งนี้ที่ส่งให้เขามีเสน่ห์น่าค้นหาตลอดเวลา เป็นคนเงียบ ๆ เก็บงำเรื่องราวของตนเองไว้โดยไม่บอกให้ใครรู้ ไม่ชอบออกงานสังคม
เขาเหมาะที่จะทำอาชีพนักโบราณคดี ทนายความ ที่ปรึกษาการลงทุน เภสัชกร ศัลยแพทย์ ด้านความรักจะเป็นคนเข้มงวดมาก เจ้าอารมณ์ แต่ก็มีความอ่อนไหวและลึกซึ้ง เขายังมีเสน่ห์ดึงดูดใจเรื่องบนเตียงเป็นอย่างมาก แถมยังเป็นคู่รักที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความปรารถนา
ดอกเบิร์ด ออฟ พาราไดส์ เป็นดอกไม้ประจำราศีธนู ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 22 พ.ย.–21 ธ.ค.
ผู้เกิดราศีนี้จะมีความสนุกสนานในชีวิต ชีวิตเต็มไปด้วยความพยายามและทะเยอทะยาน แต่ก็มีอารมณ์ผ่อนคลายและยืดหยุ่น จึงเป็นคนมองโลกในแง่ดี
เขาจึงเหมาะที่จะเป็นนักเดินทาง นักวาดการ์ตูน นักแสดงตลก นักการเมือง สัตวแพทย์ และนักบิน ด้านความรักจะเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหว มีความซื่อสัตย์ในรัก และชอบการผจญภัย.